ยอดเก็บเกี่ยวข้าวของอินเดีย ซึ่งเป็นประเทศผลิตข้าวรายใหญ่ที่สุดเป็นอันดับ 2 ของโลก ลดฮวบลงมากที่สุดเป็นประวัติการณ์ หลังประสบปัญหาฝนตกน้อยในช่วงฤดูมรสุมในรอบ 3 ปีที่ผ่านมา ส่งผลให้มีการเพาะปลูกลดน้อยลง และอาจส่งผลให้ราคาข้าวในตลาดโลกพุ่งสูงขึ้น
กระทรวงเกษตรกรรมของอินเดียเปิดเผยว่า การเพาะปลูกข้าวในอินเดียปรับตัวลดลง 19% สู่ระดับ 9.68 ล้านเฮกตาร์ (24 ล้านเอเคอร์) ในปีนี้ จาก 12.04 ล้านเฮกตาร์ในปีก่อน ขณะที่กระทรวงเกษตรของสหรัฐคาดการณ์ว่า อินเดียจะส่งออกข้าว 8 ล้านตันในช่วงระหว่างปี 2554-2555 นับเป็นจำนวน 25% ของตลาดค้าข้าวโลก
นายเค.วี. โทมัส รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอาหารของอินเดียกล่าวว่า อินเดียจะปรับปรุงกฎข้อบังคับเกี่ยวกับการส่งออกสินค้าเกษตรกรรม 15 วันหลังจากนี้ และจะพิจารณาให้มีการกำหนดเพดานการสำรองผลิตภัณฑ์ทางการเกษตรที่ผู้ค้าสามารถสำรองได้ เพื่อเป็นการควบคุมราคาถั่วที่ให้ผลผลิตเป็นน้ำมันและเมล็ดข้าวที่พุ่งสูงขึ้น
ทั้งนี้ นายแอล.เอส. ราธอร์ อธิบดีกรมอุตุนิยมวิทยาของอินเดีย กล่าวว่า ฤดูมรสุมซึ่งให้ปริมาณน้ำฝนมากกว่า 70% ของปริมาณน้ำฝนที่ตกในแต่ละปีในอินเดีย มีปริมาณน้อยที่สุดตั้งแต่ 2552 ซึ่งมีปริมาณน้ำฝนเพียง 22% น้อยกว่าปริมาณน้ำฝนเฉลี่ยในช่วง 50 ปีที่ผ่านมา นอกจากนี้ ปริมาณน้ำฝนในเดือนก.ค. ซึ่งเป็นเดือนที่ฝนตกหนักมากที่สุดในช่วงฤดูฝนระหว่างเดือน มิ.ย.-ก.ย. อาจมีปริมาณน้อยกว่าที่คาดการณ์ไว้เมื่อเดือน มิ.ย.
นอกจากนี้ องค์การอาหารและเกษตรแห่งสหประชาชาติ (FAO) เปิดเผยว่า ยอดการผลิตข้าวทั่วโลกในปี 2555 จะมีปริมาณต่ำกว่าที่คาดการณ์ไว้ในเดือนที่แล้ว โดยเกษตรกรทั่วโลกจะทำยอดเก็บเกี่ยวข้าวได้ 2.4 พันล้านตันในปีนี้ ซึ่งมีปริมาณ 23 ล้านตันน้อยกว่าที่มีการคาดการณ์ไว้เมื่อวันที่ 7 มิ.ย.