นายเอริค โรเซนเกรน ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) สาขาบอสตัน กล่าวว่า เฟดควรเริ่มแผนการซื้อพันธบัตรแบบเปิดกว้างเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจจนกว่าอัตราว่างงานจะเริ่มปรับลดลงอีกครั้ง
นายโรเซนเกรนให้สัมภาษณ์กับ CNBC โดยกล่าวว่าอัตราว่างงานของสหรัฐน่าจะยังคงอยู่ที่ราว 8.4% ภายในสิ้นปีนี้ และการขยายตัวทางเศรษฐกิจของประเทศก็น่าจะไม่แตกต่างจากช่วงครึ่งปีแรก และเขาเรียกร้องให้เฟดดำเนินนโยบายทางการเงินที่หนุนการเติบโตทางเศรษฐกิจ
เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา กระทรวงแรงงานสหรัฐรายงานว่าอัตราว่างงานในเดือนก.ค.เพิ่มขึ้นแตะ 8.3% จาก 8.2% ในเดือนมิ.ย. แม้ว่าการจ้างงานนอกภาคเกษตรในเดือนก.ค.เพิ่มขึ้น 163,000 ตำแหน่ง ซึ่งสูงกว่าคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ส่วนใหญ่
ประธานเฟดบอสตันกล่าวว่าการดำเนินมาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณเพิ่มเติมของเฟดควรมีขนาดใหญ่พอที่จะส่งผลต่อเศรษฐกิจ และเฟดควรให้ความสำคัญกับการซื้อหลักทรัพย์ที่มีสัญญาจำนองค้ำประกัน
ทั้งนี้ นายโรเซนเกรนเป็นสมาชิกของคณะกรรมการกำหนดนโยบายการเงินของเฟดที่ไม่มีสิทธิโหวต โดยเขามีท่าทีสนับสนุนนโยบายเชิงผ่อนคลายอย่างชัดเจนเพื่อกระตุ้นการเติบโตทางเศรษฐกิจและตลาดจ้างงานของประเทศที่ยังคงย่ำแย่ ท่ามกลางภาวะชะลอตัวของเศรษฐกิจโลก