สำนักงานคณะรัฐมนตรีญี่ปุ่นเปิดเผยว่า ความเชื่อมั่นผู้บริโภคญี่ปุ่นยังคงลดลงอย่างต่อเนื่องในเดือนกรกฎาคม ทำให้รัฐบาลเตรียมลดการประเมินลงเป็นเดือนที่สองติดต่อกัน
สำนักข่าวเกียวโดรายงานว่า ดัชนีความเชื่อมั่นของครัวเรือนที่มีสมาชิก 2 คนขึ้นไปนั้น ลดลงแตะ 39.7 ในเดือนที่แล้ว จากระดับ 40.4 ในเดือนมิถุนายน ซึ่งเป็นการลดลงสองเดือนติดต่อกัน โดยค่าที่ต่ำกว่า 50 บ่งชี้ว่าผู้ที่มีมุมมองเชิงลบมีจำนวนมากกว่าผู้ที่มีมุมมองเชิงบวก
ขณะเดียวกันสำนักงานคณะรัฐมนตรีแห่งญี่ปุ่นได้ปรับลดการประเมินเบื้องต้นของของผลสำรวจดังกล่าว โดยระบุว่าความเชื่อมั่นผู้บริโภคในญี่ปุ่นอยู่ในช่วง "อ่อนแรงลง" เมื่อเทียบกับการประเมินในเดือนก่อนหน้าที่ระบุว่าความเชื่อมั่นค่อนข้างจะ "ทรงตัว"
ทั้งนี้ องค์ประกอบทั้ง 4 ประการ ได้แก่ การดำรงชีพ การเติบโตของรายได้ ภาวะการจ้างงาน และระยะเวลาในการซื้อสินค้าคงทนครั้งใหม่ ล้วนแต่ลดลงทั้งสิ้น
เจ้าหน้าที่ของสำนักงานคณะรัฐมนตรีได้ชี้ให้เห็นผลกระทบเชิงลบที่อาจเกิดขึ้นกับองค์ประกอบของการเติบโตรายได้ อันเนื่องมาจากการลดลงของเงินโบนัสสำหรับช่วงฤดูร้อนนี้ และผลกระทบต่อองค์ประกอบด้านการจ้างงาน จากการรายงานของสื่อเกี่ยวกับการปรับลดพนักงานของบริษัทต่างๆ
รัฐบาลญี่ปุ่นทำการสำรวจความคิดเห็น 6,720 ครัวเรือน และเก็บรวบรวบผลสำรวจที่เป็นประโยชน์ได้จาก 5,032 ครัวเรือน หรือ 74.9% โดยในจำนวนนี้มี 1,672 ครัวเรือนซึ่งอาศัยเพียงคนเดียว
เมื่อถามถึงแนวโน้มเงินเฟ้อ ผู้ตอบการสำรวจ 60.6% เชื่อว่าราคาผู้บริโภคจะเพิ่มขึ้นในปีหน้า ซึ่งต่ำกว่าระดับ 61.3% ที่ตอบคำถามเดียวกันในเดือนมิถุนายน และ 65.5% ในเดือนพฤษภาคม ขณะเดียวกันผู้ตอบแบบสอบถาม 7.4% คาดว่าราคาสินค้าจะลดลง ขณะที่อีก 24.9% คาดว่าราคาอาจยังทรงตัว