ธนาคารกลางฟิลิปปินส์ (BSP) เปิดเผยว่า ราคาผู้บริโภคที่เพิ่มขึ้นโดยเฉพาะราคาอาหาร เนื่องจากภาวะติดขัดด้านอุปทานนั้น จะเป็นสถานการณ์ที่เกิดขึ้นเพียงชั่วคราวเท่านั้น และจะไม่ส่งผลกระทบรุนแรงต่อภาวะเงินเฟ้อของประเทศตลอดทั้งปี 2555
สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า นายอมันโด เททังโค ผู้ว่าการธนาคารกลางฟิลิปปินส์ กล่าวว่า เงินเฟ้อน่าจะอยู่ระหว่าง 3-4% ในปีนี้ แม้ว่าตอนเหนือของฟิลิปปินส์เพิ่งจะเผชิญกับพายุและน้ำท่วม ซึ่งน่าจะทำให้ราคาอาหารและผลผลิตที่สำคัญอื่นๆพุ่งสูงขึ้นก็ตาม
นายเททังโค กล่าวในการประชุมที่จัดขึ้นโดยสมาคมผู้สื่อข่าวต่างประเทศแห่งฟิลิปปินส์ว่า "เราคาดการณ์ว่าราคาที่พุ่งขึ้นนี้จะเกิดขึ้นเพียงครั้งเดียว และแบบชั่วคราว ไม่ได้เกิดขึ้นอย่างถาวร เช่นเดียวกับช่วงภัยธรรมชาติที่เพิ่งจะเกิดขึ้นเมื่อเร็วๆนี้"
กระทรวงเกษตรฟิลิปปินส์เปิดเผยเมื่อวานนี้ว่า พายุโซนร้อนซาวลาและน้ำท่วมเนื่องจากฝนตกหนักในช่วงมรสุมสร้างความเสียหายให้กับผลผลิตทางการเกษตรและการประมงมูลค่ากว่า 723 ล้านเปโซ (172.52 ล้านดอลลาร์สหรัฐ)
สำนักงานสถิติแห่งชาติฟิลิปปินส์ระบุว่า ภาวะเงินเฟ้อในเดือนกรกฎาคมอยู่ที่ 3.2% เมื่อเทียบกับ 2.8% ในเดือนมิถุนายน ส่วนใหญ่เนื่องมาจากราคาอาหารที่สูงขึ้น
ทั้งนี้ นายเททังโคยังกล่าวว่า ภัยธรรมชาติที่พัดกระหน่ำฟิลิปปินส์เมื่อเร็วๆนี้ส่งผลกระทบเล็กน้อยต่อผลิตภัณฑ์มวลรวมของประเทศ (GDP) ในปี 2555 นี้