นายคอร์ราโด พาสเซอรา รัฐมนตรีกระทรวงการพัฒนาเศรษฐกิจของอิตาลีกล่าวว่า วิกฤตเศรษฐกิจจะสิ้นสุดลง แต่ก็ขึ้นอยู่ความสามารถของรัฐบาลในการดำเนินการตามแผนปฏิรูป
นายพาสเซอรากล่าวในที่ประชุมแห่งหนึ่งในภาคกลางของอิตาลีว่า "ปัญหาหลักของเราก็คือการขาดศักยภาพในการแข่งขันและการขยายตัว หรืออีกนัยหนึ่งก็คือ ศักยภาพด้านการผลิต" พร้อมกับเสริมว่า ปัญหาดังกล่าวเกิดจากการนโยบายที่ไร้ประสิทธิภาพที่หมักหมมมานานกว่าทศวรรษ
นอกจากนี้ อัตราภาษีที่อยู่ในระดับสูงยังเป็นปัจจัยที่กดดันเศรษฐกิจที่จะต้องได้รับการแก้ไข เขากล่าวโดยระบุว่า ประชาชนที่เสียภาษีอย่างถูกต้องจำเป็นต้องได้รับการลดหย่อนภาษีและมีแหล่งทรัพยากรด้านสวัสดิการมากขึ้น
แต่อย่างไรก็ดี วิกฤตเศรษฐกิจในอิตาลีจะสิ้นสุดลงหากรัฐบาลสามารถดำเนินการตามแผนรัดเข็มขัดและมาตรการกระตุ้นการเติบโตได้ เขากล่าว
ทั้งนี้ อิตาลีซึ่งมีสัดส่วนหนี้สินต่อจีดีพีสูงกว่า 120% กำลังพยายามดำเนินการตามมาตรการรัดเข็ดขัดหลายมาตรการเพื่อหลีกเลี่ยงการขอความช่วยเหลือจากต่างประเทศ โดยเจ้าหน้าที่รัฐบาลประเมินว่า เศรษฐกิจที่มีภาวะที่ดีมีสัดส่วนประมาณ 16.3-17.5% ของจีดีพีของประเทศ
"คุณลองนึกดูว่าอิตาลีจะเป็นเช่นไรหากเพียงเราสามารถเรียกเก็บเงินที่หลีกเลี่ยงภาษีกลับคืนมาได้" นายพาสเซอรากล่าว พร้อมกับเสริมว่า การให้ความสำคัญกับสังคมจะเป็นพื้นฐานสำหรับการพื้นตัวจากภาวะวิกฤต
รัฐบาลอิตาลีเปิดเผยเมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมาว่า คดีเกี่ยวกับอาชญากรรมในอิตาลีมีทั้งหมด 2.76 ล้านคดีในปี 2554 เมื่อเทียบกับ 2.62 ล้านคดีในปี 2553 โดยคดีล้วงกระเป๋ามีจำนวนพิ่มขึ้นในปีที่ผ่านมา และมีการบันทึกทั้งหมด 134,000 คดี
รายงานดังกล่าวระบุว่า ภาวะวิกฤตเศรษฐกิจส่งผลให้เกิดปัญาอาชญากรรมต่างๆ ติดตามมา เช่น การลักขโมย ที่เพิ่มขึ้นถึง 21% แตะ 205,000 คดี สำนักข่าวซินหัวรายงาน