เงินดอลลาร์และเงินเยนแข็งค่าหลังจากที่ญี่ปุ่นรายงานว่าขาดดุลการค้ามากเกินคาดในเดือนก.ค. ซึ่งเป็นสัญญาณที่ตอกย้ำว่าเศรษฐกิจโลกอยู่ในภาวะเปราะบาง ทำให้นักลงทุนเข้าซื้อสกุลเงินดอลลาร์และเงินเยนเพื่อหลีกเลี่ยงความเสี่ยง
ณ เวลา 7.22 น.ตามเวลานิวยอร์ก เงินดอลลาร์แข็งค่า 0.2% เมื่อเทียบยูโร ที่ 1.2446 ดอลลาร์/ยูโร ขณะที่เงินเยนแข็งค่า 0.3% เทียบยูโร ที่ระดับ 98.60 เยน/ยูโร และดอลลาร์เคลื่อนไหวเล็กน้อยเทียบเยนที่ 79.29 เยน/ดอลลาร์
สกุลเงินที่ปลอดภัยอย่างดอลลาร์และเยนแข็งค่าหลังจากที่กระทรวงการคลังญี่ปุ่นเปิดเผยในรายงานเบื้องต้นวันนี้ว่า ญี่ปุ่นมียอดขาดดุลการค้าในเดือนก.ค.ทั้งสิ้น 5.174 แสนล้านเยน โดยส่วนใหญ่ได้รับผลกระทบจากการหดตัวลงของยอดการส่งออก ท่ามกลางการชะลอตัวลงของเศรษฐกิจทั่วโลก อันเนื่องจากวิกฤตหนี้สาธารณะในยุโรป
รายงานของกระทรวงระบุว่า ยอดการส่งออกเดือนก.ค.หดตัวลง 8.1% มาอยู่ที่ระดับ 5.3133 ล้านล้านเยน ซึ่งเป็นการหดตัวลงติดต่อกัน 2 เดือน โดยเฉพาะยอดส่งออกไปยังยุโรปและเอเชียที่หดตัวลงอย่างมาก ขณะที่ยอดการนำเข้าเพิ่มขึ้น 2.1% สู่ระดับ 5.8307 ล้านล้านเยน ซึ่งเป็นการปรับตัวขึ้นครั้งแรกในรอบ 2 เดือน
อย่างไรก็ดี เงินยูโรยังได้รับแรงพยุงจากข่าวที่ว่านายกรัฐมนตรีฌอง-คล็อด ยุงค์เกอร์ ของลักเซมเบิร์ก ได้เดินทางไปยังกรีซเพื่อหารือเรื่องแผนให้ความช่วยเหลือกรีซ
นายกรัฐมนตรีอันโตนิส ซามาราสของกรีซ ระบุว่า กรีซต้องการเวลามากขึ้นในการปรับลดค่าใช้จ่ายและเดินหน้าปฏิรูปตามเงื่อนไขของการรับความช่วยเหลือทางการเงินจากต่างประเทศ
นายซามาราสให้สัมภาษณ์กับหนังสือพิมพ์เยอรมนีฉบับหนึ่งก่อนที่จะพบปะกับนายฌอง-คล็อด ยุงค์เกอร์ ประธานยูโรกรุ๊ปในวันนี้ และก่อนที่จะมีการหารือกับนายกรัฐมนตรีอังเกลา แมร์เคลของเยอรมนีและประธานาธิบดีฟรองซัวส์ ออลลองด์ของฝรั่งเศสในปลายสัปดาห์นี้
ผู้นำกรีซกล่าวว่า กรีซไม่ได้เรียกร้องเงินช่วยเหลือมากขึ้น กรีซต้องการเพียงเวลามากขึ้นเล็กน้อยในการที่จะฟื้นฟูเศรษฐกิจของประเทศอย่างรวดเร็วและเพิ่มรายได้ของประเทศ เวลาที่เพิ่มขึ้นไม่ได้หมายความถึงจำนวนเงินที่เพิ่มขึ้น
นอกจากนั้นแล้ว นักลงทุนยังจับตาดูธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) เปิดเผยรายงานการประชุมของคณะกรรมการกำหนดนโยบายการเงินเมื่อวันที่ 31 ก.ค.-1 ส.ค.ในวันนี้ โดยในการประชุมดังกล่าว เฟดมีมติคงอัตราดอกเบี้ยระยะสั้น (fed funds rates) ที่ระดับ 0 - 0.25% พร้อมกับยืนยันว่า เฟดจะยังคงรักษาอัตราดอกเบี้ยให้อยู่ในระดับต่ำเป็นพิเศษต่อไปอย่างน้อยจนถึงปี 2557