นายอารักษ์ ชลธาร์นนท์ รมว.พลังงาน ระบุว่า มีความเป็นไปได้ที่จะตรึงราคาก๊าชธรรมชาติสำหรับยานยนต์(NGV) ในปัจจุบันที่กิโลกรัมละ 10.50 บาทต่อไปจนถึงสิ้นปีนี้ เนื่องจากผลศึกษาเรื่องการปรับโครงสร้างราคาที่ได้มอบหมายให้คณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน(กกพ.) ไปทำการศึกษาโดยนำค่าผ่านท่อก๊าชมาเป็นต้นทุนราคานั้นยังไม่เสร็จ ซึ่งคาดว่าผลการศึกษาจะแล้วเสร็จภายในสิ้นปีนี้
"ระหว่างนี้จะยังไม่มีการปรับขึ้นราคาเอ็นจีวีจากปัจจุบันที่ราคากิลโลกรัมละ 10.50 บาท จนกว่าผลการศึกษาของ กกพ.จะแล้วเสร็จ และเป็นที่ยอมรับของทุกฝ่าย แต่จะต้องคำนึงถึงราคาก๊าชในตลาดโลกด้วยว่าขยับเพิ่มสูงขึ้นมากน้อยเพียงใด"นายอารักษ์ กล่าว
ขณะเดียวกันก็จะยังไม่พิจารณาปรับขึ้นราคาก๊าชหุงต้ม(LPG) ภาคขนส่งเช่นกัน โดยจะพิจารณาถึงผลกระทบที่จะมีต่อภาวะเศรษฐกิจโดยรวมของประเทศ แม้ราคา LPG ในตลาดโลกจะปรับตัวสูงขึ้นกว่า 900 ดอลลาร์สหรัฐต่อตันแล้วก็ตาม
ส่วนการประชุมคณะกรรมการบริหารนโยบายพลังงาน(กบง.) ในวันนี้จะมีการพิจารณาเรื่องการจัดเก็บเงินเข้ากองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงเพื่อชดเชยราคาขายปลีกน้ำมันดีเซลไม่ให้สูงเกิน 30 บาทต่อลิตร หลังค่าการตลาดน้ำมันดีเซลของผู้ค้าน้ำมันลดลงต่ำกว่า 1 บาทต่อลิตร จากระดับที่เหมาะสม 1.50 บาทต่อลิตร ซึ่งในระยะยาวจะต้องมีการศึกษาว่าระดับราคาขายปลีกน้ำมันดีเซลไม่ให้สูงเกิน 30 บาทต่อลิตรมีความเหมาะสมหรือไม่ เพราะหลายฝ่ายมองว่าเป็นระดับราคาที่ไม่กระทบต่ออัตราเงินเฟ้อ โดยจะใช้ผู้เชี่ยวชาญด้านเศรษฐศาสตร์เข้ามาวิเคราะห์อีกครั้ง
รมว.พลังงาน ยังกล่าวถึงกรณีที่ กกพ.ร่วมลงนามในบันทึกความร่วมมือกับกระทรวงมหาดไทยในเรื่องแนวทางและขั้นตอนการอนุญาตปลูกสร้างอาคารและอาคารประกอบกิจการพลังงานว่า ความร่วมมือระหว่าง 2 หน่วยงานจะทำให้เกิดความรวดเร็วในการขอใบอนุญาตก่อสร้างที่เกี่ยวข้องกับกิจการพลังงาน อาทิ การอนุญาตให้ตั้งโรงงานเพื่อประกอบกิจการโรงงานผลิตพลังงานไฟฟ้า และการอนุญาตการก่อสร้างอาคารเพื่อประกอบกิจการพลังงาน ซึ่งมั่นใจจะสนับสนุนให้การพัฒนากิจการพลังงานมีประสิทธิภาพมากขึ้น