(เพิ่มเติม1) กนง.มีมติคงดอกเบี้ยนโยบายตามคาด แม้มี 2 เสียงเสนอปรับลดรับมือผลกระทบศก.โลก

ข่าวเศรษฐกิจ Wednesday September 5, 2012 15:45 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

คณะกรรมการนโยบายการเงิน(กนง.) ในการประชุมวันที่ 5 ก.ย.55 มีมติคงอัตราดอกเบี้ยนโยบายไว้ที่ระดับ 3.00% ตามที่ตลาดคาดการณ์ เนื่องจากเศรษฐกิจไทยยังขยายตัวได้ใกล้เคียงกับศักยภาพ แม้ว่าเศรษฐกิจโลกชะลอตัวจะส่งผลกระทบต่อการส่งออกต่ำกว่าคาด แต่อุปสงค์ภายในประเทศและการลงทุนยังขยายตัวได้ดี แม้ว่ากรรมการ กนง.2 ใน 5 จะเห็นว่าควรลดดอกเบี้ยลง 0.25% เพราะกังวลว่าเศรษฐกิจโลกที่ชะลอตัวจะส่งผลกระทบต่อการส่งออกมากขึ้นอีกจนกระทั่งส่งผลต่อการบริโภคภายในประเทศ

นายไพบูลย์ กิตติศรีกังวาน เลขานุการ กนง. กล่าวว่า ที่ประชุม กนง.ได้พิจารณาภาวะเศรษฐกิจและเงินเฟ้อรวมทั้งแนวโน้มในระยะต่อไป เพื่อกำหนดแนวนโยบายการเงินที่เหมาะสม โดยเห็นว่าขณะนี้เศรษฐกิจโลกยังมีความเสี่ยงในระดับสูง โดยเศรษฐกิจสหรัฐฯ ยังฟื้นตัวอย่างช้าๆ แม้ภาวะการบริโภคและการผลิตปรับดีขึ้นแต่ก็อยู่ในระดับต่ำกว่าในช่วงปกติ

ส่วนเศรษฐกิจกลุ่มประเทศยูโรเข้าสู่ภาวะถดถอย และมีแนวโน้มที่จะอ่อนแอลงอีกในช่วงครึ่งหลังของปีนี้จากความเชื่อมั่นของผู้ผลิตและผู้บริโภคที่ปรับลดลงมาก ความอ่อนแอของเศรษฐกิจโลกส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจจีนและประเทศในเอเชียชัดเจนขึ้น ทำให้การส่งออกชะลอลงเกินคาด อย่างไรก็ตามยังมีอุปสงค์ภายในช่วยขับเคลื่อนเศรษฐกิจเอเชียหลายประเทศให้ยังขยายตัวได้ดี

สำหรับเศรษฐกิจไทยในไตรมาส 2/55 ขยายตัวดีกว่าที่ประเมินไว้ และอุปสงค์ภายในประเทศทั้งการบริโภคและการลงทุนยังมีแนวโน้มขยายตัวดีต่อเนื่องจากความเชื่อมั่นภาคเอกชน การจ้างงาน และรายได้ภาคครัวเรือนที่อยู่ในเกณฑ์ดี ภาวะการเงินที่อยู่ในระดับผ่อนคลาย โดยเฉพาะการปล่อยสินเชื่อของสถาบันการเงินที่ยังขยายตัวสูง และแรงกระตุ้นจากมาตรการและการใช้จ่ายของภาครัฐที่มีอยู่ ถึงแม้บางส่วนจะล่าช้ากว่าที่ประเมินไว้ก็ตาม

อย่างไรก็ดี ความอ่อนแอของเศรษฐกิจโลกจะส่งผลต่อภาคการส่งออกไทยมากขึ้น และเป็นไปได้ที่การส่งออกทั้งปีจะขยายตัวต่ำกว่าที่ประมาณการไว้ สำหรับเสถียรภาพทางเศรษฐกิจยังอยู่ในเกณฑ์ดี แรงกดดันด้านราคาปรับลดลงและแนวโน้มเงินเฟ้ออยู่ในเป้าหมาย

คณะกรรมการฯ มีความเห็นว่าเศรษฐกิจไทยได้รับผลกระทบจากเศรษฐกิจโลกมากขึ้น อย่างไรก็ตามอุปสงค์ภายในประเทศยังอยู่ในระดับสูง และภาวะการเงินในขณะนี้อยู่ในระดับผ่อนปรนเพียงพอที่จะสนับสนุนให้เศรษฐกิจในประเทศขยายตัวได้ โดยสินเชื่อในบางภาคเศรษฐกิจขยายตัวสูงในระดับที่ควรเฝ้าติดตาม อย่างไรก็ดี กนง.จะติดตามสถานการณ์เศรษฐกิจโลกและอุปสงค์ในประเทศอย่างใกล้ชิด และพร้อมดำเนินนโยบายที่เหมาะสมตามความจำเป็น

"คณะกรรมการฯ จึงมีมติ 3 ต่อ 2 ให้คงอัตราดอกเบี้ยนโยบายไว้ที่ร้อยละ 3.0 ต่อปี โดย 2 เสียงให้ลดอัตราดอกเบี้ยลงร้อยละ 0.25 ต่อปี" นายไพบูลย์ กล่าว โดยการประชุมครั้งนี้กรรมการ 2 คนติดภารกิจในต่างประเทศจึงไม่สามารถเข้าร่วมประชุมได้

นายไพบูลย์ กล่าวว่า กนง.เห็นว่าคาดการณ์อัตราเงินเฟ้อละการขยายตัวทางเศรษฐกิจของประเทศยังไม่ได้เปลี่ยนแปลงอย่างมีนัยสำคัญจากการประชุมครั้งก่อน จึงไม่มีการปรับตัวเลขใหม่ แต่แรงกดดันเงินเฟ้อในการประชุมครั้งนี้ลดต่ำลง ไม่มีความเสี่ยงด้านเงินเฟ้อ ขณะที่อุปสงค์ในประเทศและการลงทุนยังขยายตคัวดี สอดคล้องกับการขยายตัวของสินเชื่อธนาคารพาณิชย์ที่มีสูงมาก

การผ่อนปรนอัตราดอกเบี้ยมาก ๆ คงไม่สามารถไปชดเชยการส่งออกที่ชะลอตัว รวมถึงการเบิกจ่ายงบประมาณของรัฐบาลล่าช้า ดังนั้น การกระตุ้นการบริโภคคงไม่ดีขึ้น เพราะอุปสงค์ในประเทศศขยายตัวดีอยู่แล้ว ดังนั้น ก็ไม่ควรไปลดดอกเบี้ยนโยบายอีก ขณะที่การแข่งขันของระบบธนาคารทั้งสินเชื่อและเงินฝากอาจะทำให้การส่งผ่านนโยบายการเงินไปยังตลาดเงินไม่มีประสิทธิภาพเท่าที่ควร เป็นการสิ้นเปลืองกระสุนด้านนโยบายการเงินที่ควรเก็บไว้ใช้ในยามจำเป็น


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ