สถาบันจัดการอุปทานของสหรัฐ (ISM) เปิดเผยว่า ดัชนีภาคบริการของสหรัฐเพิ่มขึ้นสู่ระดับ 53.7 ในเดือนส.ค. จากระดับ 52.6 ในเดือนก.ค. ซึ่งสูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะอยู่ที่ 52.5
ทั้งนี้ ภาคบริการคิดเป็นสัดส่วนถึงราว 90% ของระบบเศรษฐกิจสหรัฐ โดยครอบคลุมอุตสาหกรรมตั้งแต่สาธารณูปโภคและค้าปลีก ไปจนถึงการเคหะ บริการสุขภาพ และการเงิน ซึ่งตัวเลขที่อยู่เหนือระดับ 50 บ่งชี้ว่า ภาคบริการของสหรัฐมีการขยายตัว
การขยายตัวของดัชนีภาคบริการสหรัฐได้รับปัจจัยหนุนจากการจ้างงานและการส่งออกที่ดีดตัวขึ้น โดยดัชนีการจ้างงานของ ISM ในเดือนส.ค. พุ่งขึ้นแตะ 53.8 ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่เดือนเม.ย. จากระดับต่ำสุดในรอบเกือบหนึ่งปีที่ 49.3 ในเดือนก.ค. ขณะที่ดัชนีการส่งออกของ ISM ขยับขึ้นแตะ 52 จาก 51 ในเดือนก่อนหน้า
การเปิดเผยดัชนีภาคบริการของสหรัฐที่ขยายตัวขึ้นได้ช่วยชดเชยภาวะหดตัวของภาคการผลิตที่ ISM เปิดเผยเมื่อวันอังคารที่ผ่านมาว่า ดัชนีภาคการผลิตของสหรัฐปรับตัวลงแตะ 49.6 ในเดือนส.ค. จาก 49.8 ในเดือนก.ค. โดยตัวเลขที่ต่ำกว่า 50 บ่งชี้ว่า กิจกรรมในภาคการผลิตยังคงอยู่ในภาวะหดตัวต่อเนื่องจากเดือนก่อนหน้า ซึ่งนับเป็นเดือนที่ 3 ติดต่อกันแล้วที่ดัชนีภาคการผลิตหดตัว อันเนื่องมาจากผลกระทบของภาวะเศรษฐกิจโลกอ่อนแอ