สำนักงานคณะรัฐมนตรีญี่ปุ่นเปิดเผยว่าความเชื่อมั่นผู้บริโภคญี่ปุ่นในเดือนส.ค.ปรับตัวดีขึ้นเป็นครั้งแรกในรอบ 3 เดือน จากสัญญาณการฟื้นตัวของภาวะการจ้างงาน
ดัชนีความเชื่อมั่นภาคครัวเรือนซึ่งมีสมาชิก 2 คนขึ้นไปนั้น ปรับตัวสูงขึ้นแตะ 40.5 ในเดือนส.ค. จากเดิม 39.7 ในเดือนก.ค. โดยองค์ประกอบทั้ง 4 ซึ่งได้แก่ชีวิตความเป็นอยู่ การขยายตัวของรายได้ ภาวะการจ้างงาน และช่วงเวลาในการซื้อสินค้าคงทนครั้งใหม่นั้น ต่างปรับเพิ่มขึ้น
ขณะเดียวกันสำนักงานคณะรัฐมนตรียังคงการประเมินเบื้องต้นของผลสำรวจดังกล่าว ซึ่งเน้นย้ำว่าความเชื่อมั่นผู้บริโภคอยู่ในช่วง "อ่อนแรงลง"
สำนักข่าวเกียวโดรายงานว่า ขณะที่ความเชื่อมั่นปรับตัวดีขึ้นไม่มากนัก แต่สถานการณ์เกี่ยวกับการจ้างงาน อาทิ อัตราว่างงานที่ค่อนข้างต่ำ การเปิดตำแหน่งงานใหม่เพิ่มขึ้น และรายงานข่าวที่ลดน้อยลงเกี่ยวกับการลดจำนวนพนักงานของบริษัทขนาดใหญ่นั้น ได้ช่วยหนุนความเชื่อมั่นให้สูงขึ้น
รายงานยังระบุว่า สภาพอากาศที่ปลอดโปร่งมากขึ้นในช่วงเดือนส.ค.เมื่อเทียบกับเดือนก.ค.ได้ส่งผลดีต่อประชาชน เนื่องจากสภาพอากาศที่ร้อนในฤดูร้อนทำให้บริษัทค้าปลีกปรับตัวดีขึ้น จากอุปสงค์เครื่องดื่มเย็นๆ และสินค้าอื่นๆ ที่เพิ่มขึ้น
ในด้านราคา ผู้ตอบแบบสำรวจ 62% คาดว่าราคาสินค้าจะสูงขึ้นในปีหน้า ซึ่งมากกว่าจำนวน 60.6% ที่ระบุไว้ในเดือนก.ค. และเป็นการเพิ่มขึ้นครั้งแรกในรอบ 4 เดือน
รัฐบาลญี่ปุ่นทำการสำรวจความคิดเห็น 6,720 ครัวเรือน และรวบรวมผลสำรวจได้จาก 5,029 ครัวเรือน หรือคิดเป็น 74.8% ซึ่งในจำนวนนี้ประกอบด้วยครัวเรือนซึ่งมีสมาชิกคนเดียวอยู่ 1,669 ครัวเรือน สำนักข่าวเกียวโดรายงาน