ผลวิจัยจากเอเชีย โซไซตี้ ระบุว่า การลงทุนของจีนที่เพิ่มขึ้นในสหรัฐอเมริกาได้สร้างงานมากกว่า 10,000 ตำแหน่งสำหรับชาวอเมริกัน
รายงานในหัวข้อ "ชาวอเมริกันเปิดกว้างหรือไม่? ประโยชน์สูงสุดของการลงทุนโดยตรงของจีน" ระบุว่าการลงทุนโดยตรงของจีนในสหรัฐในขณะนี้เพิ่มขึ้นกว่า 2 เท่าในรายปี โดยแตะระดับกว่า 5 พันล้านดอลลาร์ในปี 2553 เพียงปีเดียว
รายงานดังกล่าวเป็นผลงานของการศึกษาวิจัยของเอเชีย โซโซตี้และสถาบันคิสซิงเจอร์ ว่าด้วยจีนและสหรัฐอเมริกาในเดือนพฤษภาคม 2554 ซึ่งเป็นการศึกษาวิจัยที่ครอบคลุมมากที่สุดในปัจจุบันในประเด็นดังกล่าว
รายงานระบุว่า "การลงทุนโดยตรงของจีนในอเมริกากำลังทะยานขึ้น ทั้งในด้านมูลค่าและจำนวนข้อตกลง ภาคธุรกิจต่างๆจากจีนได้เปิดดำเนินงานและสร้างงานในอย่างน้อย 35 รัฐ จาก 50 รัฐของสหรัฐอเมริกา และทั่วภาคอุตสาหกรรมหลายสิบประเภททั้งในด้านการผลิตและการบริการ"
รายงานเปิดเผยว่า "นี่เป็นเพียงแค่การเริ่มต้นเท่านั้น หากจีนดำเนินการตามแบบแผนของกลุ่มประเทศเกิดใหม่อื่นๆ การลงทุนโดยตรงของจีนมูลค่ากว่า 1 ล้านล้านดอลลาร์จะหลั่งไหลไปทั่วโลกภายในปี 2563 ซึ่งสัดส่วนจำนวนมากจากตัวเลขดังกล่าวจะพุ่งเป้าไปที่กลุ่มตลาดที่พัฒนาแล้ว เช่น สหรัฐอเมริกา"
นายแดเนียล เอช โรเซน และ ไธโล เฮนแมนน์ แห่งโรเดียม กรุ๊ป ซึ่งเป็นผู้เขียนรายงานดังกล่าวได้เตือนว่าการแทรกแซงทางการเมืองมีความเสี่ยงที่จะเบี่ยงเบนข้อตกลงด้านการลงทุนที่เป็นประโยชน์ที่ถูกต้องตามกฎหมายและมีศักยภาพ แม้จะมีการระบุว่าเป็น "นโยบายคัดกรองโดยรวมที่มีประสิทธิภาพของสหรัฐสำหรับการลงทุนที่จะเข้ามาในประเทศ"
ทั้งนี้ รัฐบาลสหรัฐได้ปิดกั้นการลงทุนขนาดใหญ่ของจีนอย่างต่อเนื่อง จากเหตุผลด้านความมั่นคงของประเทศ