รัฐบาลญี่ปุ่นเปิดเผยในวันนี้ว่า ยอดสั่งซื้อเครื่องจักรพื้นฐานของภาคเอกชนญี่ปุ่น ปรับตัวลดลง 3.3% ในเดือนส.ค. จากเดือนก่อนหน้า มาอยู่ที่ระดับ 7.173 แสนล้านเยน ซึ่งเป็นการปรับตัวลงครั้งแรกในรอบ 3 เดือน และสะท้อนให้เห็นถึงความกังวลที่ว่าการชะลอตัวของเศรษฐกิจทั่วโลกได้ส่งผลให้ความต้องการในการลงทุนด้านทุนของภาคเอกชนลดน้อยลงด้วย
ทั้งนี้ ยอดสั่งซื้อเครื่องจักรพื้นฐาน ซึ่งไม่นับรวมยอดสั่งซื้อเรือและยอดสั่งซื้อเครื่องจักรด้านสาธารณูปโภคนั้น เป็นมาตรวัดตัวเลขการใช้จ่ายด้านทุนในอนาคตของบริษัทเอกชนญี่ปุ่น
รายงานระบุว่า ปัจจัยที่ทำให้ยอดสั่งซื้อเครื่องจักรร่วงลงนั้น มาจากภาวะอ่อนแอของภาคการผลิต ซึ่งภาคส่วนนี้มีผลทำให้ยอดสั่งซื้อเครื่องจักรโดยรวมหดตัวลงถึง 15.1% ซึ่งเป็นสัดส่วนที่มากที่สุดนับตั้งแต่เดือนพ.ย. 2552
นอกจากนี้ รายงานระบุว่า ยอดสั่งซื้อจากต่างประเทศและภาครัฐ ปรับตัวลงด้วยเช่นกัน โดยยอดสั่งจากทั้ง 2 ภาคส่วนหดตัวลง 12.6% มาอยู่ที่ระดับ 1.6573 ล้านล้านเยน ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดนับตั้งแต่เดือนส.ค. 2552 ขณะที่ยอดสั่งซื้อจากกลุ่มนอกภาคการผลิต ขยับขึ้น 3.6% ซึ่งเป็นการปรับตัวขึ้นครั้งแรกในรอบ 2 เดือน
อย่างไรก็ตาม แม้ยอดสั่งซื้อเครื่องจักรปรับตัวลง แต่สำนักงานคณะรัฐมนตรีญี่ปุ่นยังคงการประเมินเกี่ยวกับความต้องการลงทุนในด้านทุนของบริษัทเอกชน โดยระบุว่ายอดสั่งซื้อเครื่องจักรมีความผันผวน สำนักข่าวเกียวโดรายงาน