กระทรวงพาณิชย์สหรัฐรายงานว่า ยอดขาดดุลการค้าและบริการของสหรัฐในเดือนส.ค. ขยายตัวขึ้น 4.1% จากเดือนก่อนหน้า สู่ระดับ 4.422 หมื่นล้านดอลลาร์ ซึ่งเป็นการเพิ่มขึ้นเดือนที่ 2 ติดต่อกัน โดยเป็นผลมาจากตัวเลขส่งออกที่ลดลงมากกว่ายอดนำเข้า
ยอดนำเข้าสินค้าและบริการของสหรัฐในเดือนส.ค.ลดลง 0.1% มาอยู่ที่ 2.2550 แสนล้านดอลลาร์ ลดลงเป็นเดือนที่ 5 ติดต่อกัน ขณะที่ราคานำเข้าน้ำมันดิบเฉลี่ยต่อบาร์เรลอยู่ที่ 94.36 ดอลลาร์ เพิ่มขึ้นจากระดับ 93.83 ดอลลาร์ในเดือนก.ค.
ขณะที่ยอดส่งออกหดตัว 1.0% แตะ 1.8128 แสนล้านดอลลาร์
ทั้งนี้ ยอดขาดดุลการค้าของสหรัฐกับจีน ซึ่งเป็นคู่ค้ารายใหญ่และมีความอ่อนไหวทางการเมืองนั้น ลดลง 2.3% สู่ระดับ 2.869 หมื่นล้านดอลลาร์ โดยการส่งออกไปยังจีนขยับขึ้น 0.6% สู่ระดับ 8.61 พันล้านดอลลาร์ ส่วนยอดนำเข้าของสหรัฐจากจีนมีมูลค่า 3.730 หมื่นล้านดอลลาร์ ขยับลงเล็กน้อยจากระดับ 3.793 หมื่นล้านดอลลาร์ในเดือนก.ค.
ยอดขาดดุลการค้าของสหรัฐกับญี่ปุ่นหดตัวลง 1.4% แตะ 6.71 พันล้านดอลลาร์ เนื่องจากการส่งออกไปยังญี่ปุ่นพุ่งขึ้น 12.4% สู่ระดับ 6.28 พันล้านดอลลาร์ ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่เดือนมี.ค.2539 ขณะที่การนำเข้าของสหรัฐจากญี่ปุ่นเพิ่มขึ้น 4.8% แตะ 1.299 หมื่นล้านดอลลาร์ เนื่องจากความต้องการที่แข็งแกร่งในกลุ่มสินค้าไฮเทค รวมถึงยานยนต์และชิ้นส่วน
สำหรับยอดขาดดุลการค้าเดือนก.ค.ได้รับการปรับทบทวนขึ้นมาอยู่ที่ 4.247 หมื่นล้านดอลลาร์ จากรายงานเบื้องต้นที่ 4.200 หมื่นล้านดอลลาร์ สำนักข่าวเกียวโดรายงาน