"สุรงค์"มองราคาน้ำมันปี 56 ยังผันผวน-ทรงตัวสูง,หวังปรับราคาตามกลไกตลาด

ข่าวเศรษฐกิจ Monday October 15, 2012 16:48 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายสุรงค์ บุลกุล ประธานกลุ่มอุตสาหกรรมโรงกลั่นน้ำมันปิโตรเลียม สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย(ส.อ.ท.)เปิดเผยถึงทิศทางและแนวโน้มสถานการณ์น้ำมันของโลกในปี 56 ในงาน"The Annual Petroleum Outlook Forum-ถอดรหัส ราคาน้ำมันโลกปี 2013 และเจาะลึกโครงสร้างราคาน้ำมันเชื้อเพลิง"ว่า ทิศทางราคาน้ำมันดิบในตลาดโลกจะยังคงผันผวนและทรงตัวอยู่ในระดับสูงในปีหน้าใกล้เคียงกับปีนี้ที่เคลื่อนไหวในช่วง 90-120 เหรียญสหรัฐ/บาร์เรล ซึ่งประมาณการณ์ราคาน้ำมันดิบดูไบจะเฉลี่ยอยู่ที่ 105 เหรียญสหรัฐ/บาร์เรล จากเฉลี่ยปี 55 ที่ 108 เหรียญสหรัฐ/บาร์เรล

ทั้งนี้ ราคาน้ำมันดิบมีโอกาสเคลื่อนไหวเกินกรอบที่คาดการณ์ไว้ได้ หากเกิดเหตุการณ์ที่ไม่คาดฝันขึ้น เช่น ความขัดแย้งในตะวันออกกลาง หรือภัยพิบัติทางธรรมชาติ ซึ่งคาดว่าน่าจะเป็นเพียงระยะเวลาสั้นๆ เท่านั้น

กลุ่ม ปตท.คาดว่าในปี 56 ปัจจัยพื้นฐานตลาดน้ำมันดิบค่อนข้างสมดุล ความต้องการใช้น้ำมันของโลกจะมีแนวโน้มปรับเพิ่มสูงขึ้นสอดคล้องกับทิศทางเศรษฐกิจโลก โดยคาดว่าความต้องการน้ำมันจะอยู่ในระดับ 90 ล้านบาร์เรล/วัน เพิ่มขึ้นประมาณ 900,000 บาร์เรล/วันจากปี 55 โดยความต้องการส่วนเพิ่มนั้นยังคงมาจากภูมิภาคเอเชียเป็นหลัก นำโดยจีนและตะวันออกกลาง ขณะที่ความต้องการใช้น้ำมันของกลุ่มประเทศพัฒนาจะยังคงหดตัวอย่างต่อเนื่องต่อไปเป็นผลมาจากปัจจัยเสี่ยงต่างๆ ทั้งวิกฤตหนี้ในยุโรป ปัญหาการว่างงาน และการขาดดุลงบประมาณ ของสหรัฐฯ

ขณะที่ทางด้านกำลังการผลิตน้ำมันของโลกในปีหน้าก็มีแนวโน้มปรับตัวเพิ่มขึ้น โดยปริมาณการผลิตจากกลุ่มนอกโอเปกจะขยายตัวเพิ่มขึ้นประมาณ 1 ล้านบาร์เรลต่อวัน ส่งผลให้โอเปกต้องเข้ามามีบทบาทสำคัญในการควบคุมกำลังการผลิตด้วยการลดกำลังการผลิตน้ำมันจากระดับปัจจุบัน เพื่อสร้างสมดุลในตลาด

นายสุรงค์ กล่าวว่า ทุกภาคส่วนของสังคม ทั้งภาครัฐ ผู้ประกอบการโรงกลั่น สังคมและประชาชน ควรเข้าใจกลไกที่แท้จริงของพลังงาน เพื่อนำไปสู่การลงมือปฏิบัติให้เป็นรูปธรรม ก่อนการเข้าสู่เขตประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน(AEC) เพราะจะต้องปรับราคาน้ำมันและก๊าซหุงต้มให้เคลื่อนไหวเสรีและคล้องกับกลไกตลาด ลดการชดเชย เพราะการอุดหนุนราคาพลังงานเป็นภาระหนักต่องบประมาณแผ่นดินและทำให้รัฐสูญเสียรายได้ อีกทั้งยังไม่เป็นธรรมกับผู้ใช้บางกลุ่ม โดยเก็บจากผู้ใช้กลุ่มหนึ่งไปอุดหนุนผู้ใช้อีกกลุ่มหนึ่ง ทำให้เกิดการใช้พลังงานอย่างไม่มีประสิทธิภาพ ก่อให้เกิดมลภาวะและก๊าซเรือนกระจก ซึ่งเป็นสาเหตุที่ทำให้โลกร้อน

ด้านนายสุเทพ เหลี่ยมศิริเจริญ ผู้อำนวยการ สำนักงานนโยบายและแผนพลังงาน(สนพ.)กล่าวว่า กระทรวงพลังงานอยู่ระหว่างศึกษาปรับโครงสร้างพลังงาน โดยเฉพาะราคา LPG ให้สอดคล้องตลาดโลก ควบคู่กับการดูแลประชาชน ซึ่งในส่วนของราคา LPG หน้าโรงกลั่นน้ำมัน ทางกลุ่มโรงกลั่นฯได้เสนอให้ปรับราคาให้เป็นราคาตลาดโลก จากที่ปัจจุบันราคา 76% อิงราคาตลาดโลก และ 24% อิงราคาควบคุมในประเทศ

กลุ่มโรงกลั่นระบุว่าหากปรับสูตรให้เหมาะสมจะมี LPG จากโรงกลั่นมาขายตลาดได้เพิ่มอีก 5 หมื่นตัน/เดือน จากปัจจุบันมีประมาณ 8 หมื่นตัน/เดือน แต่มีปัญหาคือกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงจะต้องชดเชยเพิ่มอีก 300-400 ล้านบาท/เดือน ซึ่งต้องชั่งน้ำหนักระหว่างต้นทุนจ่ายเพิ่มกับความเสี่ยงจากการนำเข้าเป็นอย่างไร แล้วจึงมาตัดสินใจภายหลัง


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ