กระทรวงพาณิชย์ญี่ปุ่นเปิดเผยว่า ญี่ปุ่นมียอดลงทุนโดยตรงในจีนเพิ่มขึ้น 17% ในเดือนม.ค.-ก.ย. เมื่อเทียบกับปีที่แล้ว แตะที่ระดับ 5.62 พันล้านดอลลาร์ (ราว 4.46 แสนล้านเยน)
รายงานของกระทรวงระบุว่า การลงทุนโดยตรงของต่างชาติ (FDI) ในจีน ซึ่งรวมถึงญี่ปุ่นนั้น ลดลง 3.8% แตะที่ระดับ 8.342 หมื่นล้านดอลลาร์ในระยะดังกล่าว ซึ่งสะท้อนการลงทุนในจีนที่หดตัวลง ท่ามกลางวิกฤตหนี้ยุโรปและต้นทุนแรงงานที่สูงขึ้นในจีน
นักเศรษฐศาสตร์กล่าวว่า แม้ว่าขัอมูลดังกล่าวส่งสัญญาณที่ดีในช่วง 9 เดือนแรกของปีนี้ก็ตาม แต่บริษัทต่างๆของญี่ปุ่นอาจตัดสินใจย้ายฐานการผลิตในจีนไปประเทศอื่นๆ อาทิประเทศในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ จากการทำลายทรัพย์สิน การลอบวางเพลิง และการปล้นทรัพย์ โดยพุ่งเป้าโรงงาน ร้านค้า และร้านอาหารของญี่ปุ่นที่ดำเนินกิจการในจีน จากการประท้วงต่อต้านญี่ปุ่นที่เกิดขึ้นในเดือนก.ย.
สำหรับเดือนก.ย. มูลค่าการลงทุนโดยตรงของต่างชาติในจีนลดลง 6.8% เมื่อเทียบรายปี สู่ระดับ 8.43 พันล้านดอลลาร์ ซึ่งเป็นการลดลงติดต่อกันเป็นเดือนที่ 4
ขณะที่การลงทุนของสหรัฐในจีนช่วง 9 เดือนแรกลดลง 0.63% สู่ระดับ 2.37 พันล้านดอลลาร์ ส่วนการลงทุนจากสหภาพยุโรปในจีนลดลง 6.3% แตะที่ 4.83 พันล้านดอลลาร์ สำนักข่าวเกียวโดรายงาน