รายงานของธนาคารกลางกรีซเปิดเผยว่า ธนาคารรายใหญ่ที่สุด 4 แห่งของกรีซ ได้แก่ เนชันแนล แบงก์ ออฟ กรีซ, อัลฟา แบงก์, ยูโรแบงก์ และพีเรอุส แบงก์ ซึ่งมีบทบาทสำคัญในกระบวนการเพิ่มทุนนั้น จะต้องการเม็ดเงิน 2.75 หมื่นล้านยูโร
สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า การเปิดเผยรายงานดังกล่าวเป็นการเปิดทางสำหรับการเพิ่มทุนเรือนหุ้นในธนาคารกรีซในช่วงหลายสัปดาห์ข้างหน้า ภายใต้แผนการเพิ่มทุนที่ได้รับความเห็นชอบจากบรรดาเจ้าหนี้ระหว่างประเทศของกรีซ
แผนดังกล่าว ซึ่งได้รับแรงหนุนจากเงินกู้ช่วยเหลือราว 5 หมื่นล้านยูโรที่ได้รับอนุมัติจากสหภาพยุโรป (อียู) และกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (ไอเอ็มเอฟ) นั้น มีวัตถุประสงค์เพื่อสร้างเสถียรภาพแก่ระบบการธนาคารในกรอบความพยายามโดยรวมเพื่อจัดการวิกฤตหนี้กรีซ
ตามตารางเวลาที่กำหนดไว้ กระบวนการนี้ ซึ่งจะครอบคลุมการขาดทุนสะสมจากการปรับโครงสร้างหนี้ของกรีซในส่วนของนักลงทุนเอกชนในช่วงฤดูใบไม้ผลิ, การซื้อคืนพันธบัตรโดยสมัครใจในเดือนธ.ค.นี้ และการขาดทุนโดยทั่วไปจากวิกฤตหนี้ที่ดำเนินมา 3 ปีนั้น น่าจะเสร็จสิ้นภายในเดือนเม.ย.2556
เมื่อกลางเดือนธ.ค. นายฌอง-คล็อด ยุงเกอร์ ประธานรัฐมนตรีคลังยูโรโซน หรือยูโรกรุ๊ป ประกาศว่า ยูโรกรุ๊ปได้อนุมัติการเบิกจ่ายเงิน 4.91 หมื่นล้านยูโร (ราว 6.41 หมื่นล้านดอลลาร์) แก่กรีซภายใต้แผนช่วยเหลือทางการเงินระหว่างประเทศ โดยระบุว่าการตัดสินใจดังกล่าวมีขึ้นหลังการพิจารณาในขั้นสุดท้ายเกี่ยวกับกระบวนการที่เกี่ยวข้องของกรีซ และหลังจากที่มีการพิจารณาทบทวนผลของการดำเนินการซื้อคืนตราสารหนี้ของกรีซ