TMB คาด กนง.คงดอกเบี้ยที่ 2.75% หลังสหรัฐฯ เลี่ยงเผชิญหน้าผาการคลัง

ข่าวเศรษฐกิจ Friday January 4, 2013 16:47 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

ศูนย์วิเคราะห์เศรษฐกิจ ทีเอ็มบี (TMB Analytics) คาดคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) คงอัตราดอกเบี้ยนโยบายไว้ที่ 2.75% ในการประชุมวันที่ 9 ม.ค.ซึ่งเป็นการประชุมครั้งแรกของปีนี้ หลังสหรัฐฯ หลีกเลี่ยงหน้าผาทางการคลังหวุดหวิด ประกอบกับปัจจัยเสริมจากสัญญาณการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจของประเทศคู่ค้าหลักของไทยดีขึ้น การใช้จ่ายของอุปสงค์ในประเทศมีแนวโน้มขยายตัวดีต่อเนื่อง และแรงกดดันด้านเงินเฟ้อทรงตัว

TMB Analytics คาดการณ์ว่า เศรษฐกิจสหรัฐฯ มีแนวโน้มที่จะขยายตัวได้ใกล้เคียงระดับ 2% ในปีนี้ และการที่เศรษฐกิจสหรัฐฯ โชคดีหลีกเลี่ยงวิกฤตเศรษฐกิจระยะสั้นครั้งนี้ไปได้ ไม่เพียงแต่จะเป็นข่าวดีต่อชาวอเมริกันเท่านั้น แต่นับว่าเป็นข่าวดีต่อประเทศอื่นๆ รวมถึงประเทศไทยด้วย ก่อนหน้านี้ศูนย์วิเคราะห์เศรษฐกิจ ทีเอ็มบี ได้เคยประมาณการไว้ว่า ไทยจะส่งออกสินค้าไปขายยังสหรัฐฯ ลดลงราว 1% หากสหรัฐฯ ต้องเผชิญหน้าผาการคลังเต็มรูปแบบในปีนี้ ดังนั้นเมื่อวิกฤตดังกล่าวผ่านพ้นไป ความกังวลสำหรับผลกระทบต่อภาคการส่งออกไทยก็ลดน้อยลงเป็นลำดับเช่นกัน

นอกจากนี้ เครื่องชี้ภาวะเศรษฐกิจคู่ค้าสำคัญอันดับต้นของไทย ก็ส่งสัญญาณการฟื้นตัวอย่างต่อเนื่องมาตั้งแต่ช่วงปลายปีก่อน ดังจะเห็นตัวอย่างได้จากผลสำรวจกิจกรรมภาคการผลิตล่าสุดของสหรัฐฯ(ดัชนี ISM) และจีน(ดัชนี PMI) ที่ปรับตัวดีขึ้นในเดือนธันวาคม มาอยู่ที่ระดับ 50.7 และ 50.6 ตามลำดับ และการที่ดัชนีดังกล่าวทรงตัวเหนือระดับ 50 ได้นั้น สะท้อนถึงเศรษฐกิจที่ขยายตัว

สำหรับการส่งออกของไทยก็นับว่ามีสัญญาณที่ดีขึ้นในช่วง 2-3 เดือนที่ผ่านมา สอดคล้องกับภาวะเศรษฐกิจของประเทศคู่ค้าหลัก โดยมูลค่าส่งออกของไทยไม่นับรวมทองคำ(หลังปรับด้วยปัจจัยฤดูกาล) ขยายตัวเพิ่มขึ้นจากเดือนก่อน 2.4% และ 7.8% ในเดือนตุลาคม — พฤศจิกายน ตามลำดับ จึงนับว่าเป็นสัญญาณที่ดีและมีความชัดเจนมากขึ้นที่การส่งออกของไทยจะฟื้นตัวได้อย่างต่อเนื่องในระยะถัดไป

หากพิจารณาถึงความแข็งแกร่งของอุปสงค์ในประเทศ พบว่า ทั้งการใช้จ่ายของครัวเรือนและการลงทุนภาคธุรกิจนั้น ขยายตัวในเกณฑ์ดีมาโดยตลอดช่วงปีที่ผ่านมา (ตัวเลขล่าสุดในเดือนพฤศจิกายน ระบุ ทั้งดัชนีการบริโภคภาคเอกชนและดัชนีการลงทุนภาคเอกชน ขยายตัว 1.8% จากเดือนที่ผ่านมา) โดยส่วนหนึ่งต้องยอมรับว่าได้รับแรงหนุนจากมาตรการภาครัฐ เช่น มาตรการคืนภาษีรถคันแรก เป็นต้น รวมทั้งการเร่งฟื้นฟูโรงงานและเครื่องมือเครื่องจักรของผู้ประกอบการที่ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์น้ำท่วมในปลายปี 2554 ซึ่งศูนย์วิเคราะห์เศรษฐกิจ ทีเอ็มบี มองว่า อุปสงค์ของภาคเอกชนจะยังคงขยายตัวได้ดีต่อเนื่องในปี 2556 และแรงส่งเพิ่มเติมจากโครงการใช้จ่ายของภาครัฐ โดยเฉพาะในเรื่องระบบสาธารณูปโภคพื้นฐานและโครงการบริหารจัดการน้ำ รวมถึงการบังคับใช้ค่าแรงขั้นต่ำ 300 บาททั่วประเทศที่จะช่วยเพิ่มกำลังซื้อของครัวเรือนให้สูงขึ้น

ในส่วนของแรงกดดันด้านเงินเฟ้อนั้น จากรายงานดัชนีราคาผู้บริโภคประจำเดือนธันวาคม 2555 พบว่า ดัชนีราคาพื้นฐาน ไม่รวมหมวดอาหารสดและพลังงาน (ซึ่งใช้เป็นเกณฑ์อ้างอิงเป้าหมายเงินเฟ้อของ ธปท.) ยังทรงตัวที่ระดับ 1.8% เทียบกับช่วงเวลาเดียวกันปีก่อน เนื่องจากราคาน้ำมันดิบในตลาดโลกไม่ได้ปรับตัวสูงขึ้นมาก ประกอบกับมาตรการช่วยเหลือภาระค่าครองชีพของรัฐบาลด้านการตรึงราคาสินค้าและราคาน้ำมันดีเซล ทำให้การผลักภาระด้านต้นทุนจากผู้ผลิตไปยังผู้บริโภคยังอยู่ในระดับต่ำ นอกจากนี้ เงินเฟ้อคาดการณ์ในระยะ 12 เดือนข้างหน้าจากผลสำรวจของธนาคารแห่งประเทศไทย ค่อนข้างนิ่งในช่วงหลายเดือนที่ผ่านมา ทำให้แนวโน้มการเร่งตัวขึ้นของเงินเฟ้ออย่างน้อยยังไม่เป็นที่น่ากังวลในระยะสั้น


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ