FDI ที่ไหลเข้ามาในจีนเริ่มลดลงตั้งแต่เดือนมิ.ย. ปีที่แล้ว เนื่องจากเศรษฐกิจโลกชะลอตัวลง ขณะที่ต้นทุนแรงงานของจีนเพิ่มสูงขึ้น
ในเดือนม.ค. ภาคการผลิตซึ่งได้รับส่วนแบ่ง FDI มากที่สุดของจีนใช้เม็ดเงิน FDI ทั้งหมดเพียง 4.43 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ ลดลง 5.8% เมื่อเทียบเป็นรายปี
ส่วน FDI ในภาคบริการร่วงลงยิ่งกว่า โดย FDI แพร่สะพัดในภาคบริการ 4.03 พันล้านดอลลาร์สหรัฐในเดือนเดียวกัน ปรับตัวลง 9.8% เทียบรายปี โดยเฉพาะ FDI ในภาคอสังหาริมทรัพย์ซึ่งดิ่งลง 14% เทียบเป็นรายปี
นายเสิ่น ตันหยาง โฆษกกระทรวงพาณิชย์กล่าวกับผู้สื่อข่าวว่า แม้ตัวเลข FDI ในเดือนม.ค. ลดลง แต่ก็นับว่ายังมีสัญญาณด้านบวกอยู่บ้าง
สหภาพยุโรป หรืออียูได้ลงทุนในวิสาหกิจจีนคิดเป็นมูลค่า 820 ล้านดอลลาร์สหรัฐในเดือนม.ค. พุ่งขึ้น 81.8% จากปีที่แล้ว กระทรวงฯพบว่า อียูลงทุนในบริษัทที่เปิดกิจการใหม่ถึง 140 แห่งในจีน เพิ่มขึ้น 30.8% เมื่อเทียบเป็นรายปี สำนักข่าวซินหัวรายงาน