ภายในงานจะเปิดโอกาสให้กลุ่มผู้ประกอบการขนาดกลางและขนาดย่อม (เอสเอ็มอี) ของไทยได้นำเสนอศักยภาพด้านการผลิตในอุตสาหกรรมสนับสนุน และรับช่วงผลิต แก่บริษัทที่เป็นผู้ซื้อรายใหญ่ทั้งจากในประเทศและต่างประเทศ ซึ่งล่าสุดมีบริษัทที่มีชื่อเสียงตอบรับเข้าร่วมงานนี้แล้ว อาทิ เมอร์เซเดส-เบนซ์ บีเอ็มดับเบิลยู โรเบิร์ตบ๊อช เวิร์ลพูล โตชิบา เดนโซ่ ไดกิ้น และซัมซุง เป็นต้น และยังมีผู้ซื้อรายใหญ่ที่เข้าร่วมงานเป็นครั้งแรก อาทิ บริษัท โตโยต้า บริษัทไฮเออร์ และบริษัทโตชิบา คอนซูมเมอร์ โปรดักส์ ประเทศไทย ตอบรับเข้าร่วมกิจกรรมในงาน เพื่อแสวงหาผู้ผลิตในกลุ่มเอสเอ็มอีที่มีคุณภาพป้อนวัตถุดิบ และชิ้นส่วนอุตสาหกรรมสำหรับการผลิตสินค้าที่มีความหลากหลายของบริษัทในอนาคต
นอกจากนี้จะมีกิจกรรมสำคัญอื่น ๆ อาทิ กิจกรรมจับคู่ธุรกิจ ซึ่งจะเป็นเวทีให้กับเอสเอ็มอีไทยได้เจรจาธุรกิจร่วมกับผู้ซื้อรายใหญ่โดยตรง คาดว่าตลอดการจัดงานจะสามารถจัดให้มีการจับคู่ธุรกิจได้กว่า 3,500 คู่ เกิดมูลค่าการซื้อขายร่วมกันไม่ต่ำกว่า 7,000 ล้านบาท กิจกรรมจับคู่ทำวิจัยและพัฒนา (R&D Matching) ระหว่างผู้ผลิตชิ้นส่วนกับหน่วยงานวิจัย และสถาบันการศึกษา รวมถึงกิจกรรมสัมมนาเชิงวิชาการและเชิงปฏิบัติการเพื่อให้ความรู้ในภาคอุตสาหกรรม และการเปิดคลินิกอุตสาหกรรมให้คำปรึกษาด้านการดำเนินธุรกิจ แก่ผู้ที่สนใจทั่วไป เป็นต้น
“ หน่วย BUILD ให้ความสำคัญกับการจัดกิจกรรมเพื่อส่งเสริมและสนับสนุนเอสเอ็มอีมาอย่างต่อเนื่องกว่า 20 ปี โดยเฉพาะในกลุ่มชิ้นส่วนเครื่องจักรกล อิเล็กทรอนิกส์ และยานยนต์ ซึ่งเป็นพื้นฐานในการสร้างความแข็งแกร่งของอุตสาหกรรมสนับสนุน และก่อให้เกิดการพัฒนาอุตสาหกรรมของประเทศอย่างแท้จริงโดยในปี 2554 ที่ผ่านมา การจัดกิจกรรมในรูปแบบต่างๆ อาทิ งานสัมมนาเจรจาจับคู่ธุรกิจ การจัดเยี่ยมชมโรงงาน รวมถึงนำเอสเอ็มอีไทยร่วมงานแสดงสินค้าทั้งในและต่างประเทศรวมถึง 176 ครั้งได้เกิดการเชื่อมโยงอุตสาหกรรม คิดเป็นมูลค่ากว่า 40,000 ล้านบาท สำหรับการจัดงานซับคอนไทยแลนด์ใน ครั้งนี้ จะเป็นอีกกิจกรรมหนึ่งที่สำคัญที่จะช่วยเปิดตลาดของเอสเอ็มอีได้เพิ่มขึ้น รวมถึงตอกย้ำถึงศักยภาพของประเทศไทย ในความพร้อมขึ้นเป็นศูนย์กลางอุตสาหกรรมสนับสนุนของอาเซียนได้ตามเป้าหมายที่วางไว้ในอนาคตอันใกล้นี้ " นายอุดมกล่าว
นายมนู เลียวไพโรจน์ ประธาน บริษัท ยูบีเอ็ม เอเชีย ประเทศไทย จำกัด ผู้ร่วมจัดงาน ซับคอน ไทยแลนด์ 2013 และ อินเตอร์แมค 2013 กล่าวว่า จากผลตอบรับที่ดี ในการจัดงานครั้งที่ผ่านมาทำให้ผู้ผลิตชิ้นส่วนทั้งในและต่างประเทศแจ้งความจำนงค์เข้าร่วมงานครั้งนี้เป็นจำนวนมาก ส่งผลให้การจัดสรรพื้นที่เสร็จสิ้นไปแล้วตั้งแต่เดือนมีนาคมที่ผ่านมา สำหรับงานในปีนี้มีผู้แสดงชิ้นส่วนอุตสาหกรรมเข้าร่วมจาก 9 ประเทศ รวมทั้งสิ้น 300 คูหา และจะเป็นครั้งแรกในการเปิดพื้นที่พิเศษสำหรับหน่วยงานและสมาคมผู้ผลิตชิ้นส่วนรวมถึงผู้ประกอบสนับสนุนในอาเซียน ได้เข้าร่วมแสดงศักยภาพการผลิตชิ้นส่วนภายในงานด้วย ล่าสุดมีประเทศที่แจ้งตอบรับเข้าร่วมงานแล้ว อาทิ มาเลเซีย เวียดนาม ฟิลิปปินส์ และสิงคโปร์ เป็นต้น
“ผลการตอบรับของการจัดงาน ซับคอนไทยแลนด์ ที่ผ่านมา ทำให้สามารถรับรู้ได้ว่างานดังกล่าว มีความสำคัญอย่างยิ่งและถือว่า เป็นงานแสดงชิ้นส่วนอุตสาหกรรมสำหรับอุตสาหกรรมยานยนต์ ไฟฟ้า อิเล็กทรอนิกส์ และเครื่องจักรที่มีความสำคัญเป็นอย่างยิ่งสำหรับ ผู้ประกอบการไทย ญี่ปุ่น และในประเทศภูมิภาคอาเซียน" นายมนู กล่าว
ด้านนายชนาธิป สุรชัยสิทธิกุล นายกสมาคมส่งเสริมการรับช่วงการผลิตไทย กล่าวว่า งานซับคอนไทยแลนด์ เป็นงานที่เปิดโอกาสให้เกิดเการพบปะร่วมกันของผู้ผลิตชิ้นส่วนที่มีความหลากหลาย เอสเอ็มอีของไทยควรใช้โอกาสนี้พัฒนาไปสู่การสร้างเครือข่ายทางการค้า สร้างพันธมิตรทางการค้า (Partner) สร้างการเรียนรู้ รวมถึงถ่ายทอดเทคโนโลยีระหว่างกัน เพื่อเตรียมพร้อมสำหรับการแข่งขันของภาคอุตสาหกรรมที่จะรุนแรงขึ้นในอนาคต โดยเฉพาะภายหลังการเข้าสู่ประชาคมเศรษฐกิจอาเซียนที่ในด้านหนึ่งจะช่วยขยายตลาดของผู้ผลิตเพิ่มขึ้น แต่ในทางกลับกันก็ก่อให้เกิดการแข่งขันที่สูงขึ้นระหว่างประเทศในอาเซียนด้วย