นายดิจเซลโบลมเปิดเผยกับผู้สื่อข่าวว่า เงินช่วยเหลืองวดแรกจำนวน 4.2 พันล้านยูโรนั้น จะได้รับอนุมัติในอีกไม่กี่วันข้างหน้า และหลังจากนั้นจะมีการเบิกจ่ายโดยกองทุนรักษาเสถียรภาพการเงินยุโรป (EFSF) ส่วนเงินงวดที่เหลืออีก 3.3 พันล้านยูโรนั้น คาดว่าจะมีการเบิกจ่ายในเดือนมิ.ย. ซึ่งจะขึ้นอยู่กับความคืบหน้าของโครงการฟื้นฟูเศรษฐกิจของกรีซ
การตัดสินใจดังกล่าวมีขึ้นหลังจากยูโรโซนได้ออกแถลงการณ์แสดงความพึงพอใจภายหลังการประชุมครั้งนี้ว่า "กรีซมีความคืบหน้ามากขึ้นอย่างมากในการดำเนินมาตรการปฏิรูปการคลังและเชิงโครงสร้าง ตามที่ได้มีการตกลงกันไว้ก่อนหน้านี้"
นอกจากนี้ ยูโรกรุ๊ปยังระบุว่า "กรีซสามารถฟื้นฟูศักยภาพการแข่งขันด้านต้นทุนได้อย่างรวดเร็ว" ขณะเดียวกันก็เรียกร้องให้กรีซดำเนินการปฏิรูปตลาดสินค้าและการบริการ เพื่อเพิ่มศักยภาพการแข่งขันด้านต้นทุนให้แข็งแกร่งมากขึ้น