นักบริหารเงินจากธนาคารกรุงเทพ เปิดเผยว่า เงินบาทปิดตลาดเย็นนี้อยู่ที่ระดับ 29.71/75 บาท/ดอลลาร์ ใกล้เคียงกับช่วงเช้าที่เปิดตลาดที่ระดับ 29.70/72 บาท/ดอลลาร์
โดยวันนี้เงินบาทยังแกว่งตัวอยู่ในกรอบแคบๆ ระหว่างวันแข็งค่าสุดที่ระดับ 29.66 บาท/ดอลลาร์ และอ่อนค่าสุดที่ระดับ 29.71 บาท/ดอลลาร์ ทั้งนี้มองว่าในระยะนี้ปัจจัยต่างประเทศยังไม่ค่อยส่งผลต่อทิศทางการเคลื่อนไหวของค่าเงินบาทมากนัก มีเพียงปัจจัยภายในประเทศตัวเดียวคือ การประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงิน(กนง.) วันที่ 29 พ.ค.นี้ ซึ่งเป็นปัจจัยหลักที่นักลงทุนจับตารอว่าจะมีการพิจารณาเรื่องอัตราดอกเบี้ยนโยบายอย่างไร
"พรุ่งนี้ก็คงแกว่งในกรอบเดิมๆ ตอนนี้ปัจจัยภายนอกไม่ส่งผลต่อการเคลื่อนไหวของเงินบาท มีเพียงปัจจัยหลักในประเทศตัวเดียวเท่านั้น คือ รอผลประชุมกนง.ปลายเดือน" นักบริหารเงิน ระบุ
นักบริหารเงินคาดว่า วันพรุ่งนี้เงินบาทจะเคลื่อนไหวอยู่ในกรอบ 29.65-29.80 บาท/ดอลลาร์
- ปัจจัยสำคัญ
- ปิดตลาดเย็นนี้เงินเยนอยู่ที่ระดับ 102.63/66 เยน/ดอลลาร์
- ส่วนเงินยูโรอยู่ที่ระดับ 1.2866/2867 ดอลลาร์/ยูโร
- ดัชนี SET ปิดช่วงบ่ายที่ระดับ 1,617.89 จุด ลดลง 12.20 จุด(-0.75%) มูลค่าการซื้อขาย 56,763 ล้านบาท นักวิเคราะห์ฯ ระบุตลาดหุ้นไทยหมดช่วงเก็งกำไรงบการเงินบริษัทจดทะเบียนไตรมาส 1/56 และหุ้นที่เข้าคำนวณดัชนี MSCI ซึ่งเป็นไปในทิศทางเดียวกับตลาดต่างประเทศที่ช่วงนี้ทรงและซึมลงรอปัจจัยใหม่หนุน พรุ่งนี้ติดตามข้อมูล CPI สหรัฐ แต่คาดหุ้นไทยน่าจะปรับฐานต่อหลังบวกติดต่อมานาน โดยให้แนวรับ 1,600 จุด
- สรุปปริมาณการซื้อขายรายกลุ่ม ต่างชาติซื้อสุทธิ 377.04 ลบ.(SET+MAI)
- นายอิสระ ว่องกุศลกิจ ประธานกรรมการหอการค้าไทย เผยผลการหารือกับผู้ว่าการ ธปท. โดยระบุว่าค่าเงินบาทในขณะนี้ที่เคลื่อนไหวอยู่ในช่วง 29-30 บาท/ดอลลาร์ อยู่ในระดับที่น่าพอใจ และอยากเห็นค่าเงินบาทมีเสถียภาพไม่ผันผวนมากเกินไป และเป็นระดับที่ผู้ประกอบการสามารถแข่งขันได้ในระดับเดียวกับประเทศคู่แข่ง
พร้อมกันนี้เสนอให้ ธปท.ใช้เงินสกุลท้องถิ่นในการค้าขายกับประเทศเพื่อนบ้านตามด่านชายแดนกว่า 10 แห่งที่มีการค้าขายเพิ่มมากขึ้นแทนการใช้เงินดอลลาร์สหรัฐ เพื่อลดต้นทุนของภาคเอกชนและเพิ่มความคล่องตัวในการทำธุรกิจ
- ตลาดหุ้นยุโรปขยับลงเล็กน้อยในช่วงเปิดตลาดวันนี้ หลังจากที่ปรับตัวขึ้นในช่วง 2 วันที่ผ่านมา ขณะเดียวกันนักลงทุนพิจารณาการรายงานผลประกอบการของหลายบริษัทเป็นปัจจัยประกอบการซื้อขาย
- มูดี้ส์ อินเวสเตอร์ เซอร์วิส ประกาศให้อันดับเครดิต (P)Baa3 แก่ตราสารกึ่งทุน (hybrid securities) ที่ออกโดยบริษัท ปตท. สำรวจและผลิตปิโตรเลียม จำกัด(มหาชน) หรือ PTTEP แนวโน้มอันดับเครดิตมีเสถียรภาพ
- สภาทองคำโลก(WGC) เปิดเผยความต้องการทองคำทั่วโลกในช่วงไตรมาสแรกปี 2556 ลดลง 13% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน แตะระดับต่ำสุดในรอบ 3 ปี ที่ 963 ตัน เนื่องจากนักลงทุนลดสัดส่วนการลงทุนในกองทุน ETF ลงอย่างมาก แม้ว่าความต้องการในส่วนของอัญมณี เหรียญทอง และทองแท่งจะพุ่งขึ้นก็ตาม
- รัฐบาลญี่ปุ่นเปิดเผยในวันนี้ว่า ผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (จีดีพี) ที่แท้จริงในไตรมาสแรกปีนี้ ขยายตัว 3.5% ต่อปี ทำสถิติขยายตัวติดต่อกัน 2 ไตรมาส เพราะได้แรงหนุนจากการเพิ่มขึ้นของตัวเลขการใช้จ่ายผู้บริโภคและยอดการส่งออก
- กระทรวงการคลังสหรัฐรายงานว่า การถือครองพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐทั้งหมดโดยต่างชาติได้พุ่งขึ้นแตะระดับสูงสุดครั้งใหม่ในเดือนมี.ค. ซึ่งบ่งชี้ถึงความต้องการที่แข็งแกร่งสำหรับพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐ ท่ามกลางวิกฤตหนี้ยูโรโซนที่ยืดเยื้อ โดยในเดือนมี.ค.ปริมาณการซื้อพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐของต่างชาติอยู่ที่ 5.7584 ล้านล้านดอลลาร์ เพิ่มขึ้นจาก 5.7188 ล้านล้านดอลลาร์ในเดือนก.พ. และเพิ่มขึ้นเป็นเดือนที่ 15 ติดต่อกัน