(เพิ่มเติม1) นายกฯ ชี้แจงพ.ร.บ.งบฯคาดอุปสงค์ในปท.หนุนศก.ปี 57 โต 4-5% เงินเฟ้อ 2.7-3.7%

ข่าวเศรษฐกิจ Wednesday May 29, 2013 11:17 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ชี้แจงต่อที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎรสมัยวิสามัญเพื่อพิจารณา ร่าง พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2557 ว่า การจัดทำงบประมาณรายจ่ายอยู่ภายใต้คาดการณ์เศรษฐกิจไทยในปี 57 จะเติบโต 4-5% อัตราเงินเฟ้ออยู่ที่ 2.7-3.7% โดยเชื่อว่าอุปสงค์ในประเทศที่ยังขยายตัวต่อเนื่องจากปีก่อนหน้าทั้งการบริโภคและการลงทุนภาคเอกชน ประกอบกับการใช้จ่ายและการลงทุนภาครัฐจะมีบทบาทมากขึ้น ในการขับเคลื่อนการขยายตัวตามการเบิกจ่ายเงินตามแผนเงินกู้ตามพ.ร.ก. และแผนการกู้เงินตามร่างพ.ร.บ.

ขณะเดียวกันภาคต่างประเทศมีแนวโน้มปรับตัวดีขึ้นตามการฟื้นตัวของเศรษฐกิจเอเชียและเศรษฐกิจโลกในภาพรวม ส่งผลให้การส่งออกมีบทบาทมากขึ้นต่อการขยายตัวในช่วงหลังของปี 56 และต่อเนื่องจนถึงปี 57

ส่วนเศรษฐกิจในปี 56 มีแนวโน้มที่จะขยายตัวได้ในเกณฑ์ดี 4.2-5.2% อัตราเงินเฟ้อ 2.3-3.3% โดยมีปัจจัยสนับสนุนที่สำคัญ คือ เศรษฐกิจโลกที่คาดว่าน่าจะมีแนวโน้มปรับตัวดีขึ้นในช่วงครึ่งปีหลัง

นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า รัฐบาลได้จัดทำงบประมาณรายจ่ายปี 57 วงเงินประมาณ 2,525,000 ล้านบาท เป็นการดำเนินนโยบายงบประมาณแบบขาดดุล คาดการณ์รายได้ภาครัฐ 2,275,000 ล้านบาท ขณะที่กำหนดให้มีการกู้เงินเพื่อชดเชยการขาดดุลงบประมาณอีกจำนวน 250,000 ล้านบาท

การจัดทำงบประมาณฯ อยู่บนพื้นฐาน"ยุทธศาสตร์ประเทศ"ที่มุ่งยกระดับมาตรฐานในทุกด้านเพื่อเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันและตอบสนองต่อความต้องการของพี่น้องประชาชนในทุกพื้นที่ โดยมีจุดมุ่งหมายที่สำคัญ 2 ประการ ประการแรก เพื่อดำเนินนโยบายและมาตรการแก้ไขปัญหาต่างๆ ทางเศรษฐกิจและสังคมต่อเนื่องจากปีงบประมาณที่ผ่านมา โดยให้ความสำคัญกับการบูรณาการการดำเนินงานในทุกมิติและการสร้างภาคีการพัฒนาอย่างมีส่วนร่วมจากทุกภาคส่วน

ประการที่สอง เพื่อสนับสนุนการขับเคลื่อนยุทธศาสตร์ประเทศ และการรองรับการเข้าสู่ประชาคมอาเซียน รวมทั้งเสริมสร้างประสิทธิภาพและธรรมาภิบาลของระบบราชการ

รัฐบาลได้กำหนดยุทธศาสตร์การจัดสรรงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2557 ประกอบด้วย 8 ยุทธศาสตร์และรายการค่าดำเนินการภาครัฐ ประกอบด้วย

ยุทธศาสตร์ที่ 1 เร่งรัดการพัฒนาประเทศและเตรียมความพร้อมสู่ประชาคมอาเซียน รัฐบาลได้เตรียมความพร้อมของประเทศเพื่อรองรับบริบทการเปลี่ยนแปลงใหม่ทั้งภายในและภายนอกประเทศ รวมทั้งการเข้าสู่ประชาคมอาเซียนในปี 2558 โดยจัดสรรงบประมาณไว้จำนวน 145,006.9 ล้านบาท หรือคิดเป็นร้อยละ 5.7 ของวงเงินงบประมาณ เพื่อดำเนินการที่สำคัญ เช่น การรองรับการเข้าสู่ประชาคมอาเซียน, การพัฒนาศิลปหัตถกรรมและผลิตภัณฑ์ชุมชน, การส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม, การดูแลผู้สูงอายุ เด็ก สตรี คนพิการ และผู้ด้อยโอกาส และการเพิ่มรายได้จากการท่องเที่ยวและบริการ เป็นต้น

ยุทธศาสตร์ที่ 2 ความมั่นคงแห่งรัฐ จำนวน 210,783.5 ล้านบาท หรือคิดเป็นร้อยละ 8.4 ของวงเงินงบประมาณ เพื่อการดำเนินการที่สำคัญ ประกอบด้วย การเทิดทูน พิทักษ์ และรักษาสถาบันพระมหากษัตริย์, การสร้างความปรองดองสมานฉันท์และฟื้นฟูประชาธิปไตย, การเสริมสร้างระบบป้องกันประเทศ และการรักษาความสงบเรียบร้อยภายในประเทศ

ยุทธศาสตร์ที่ 3 การสร้างความเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจอย่างมีเสถียรภาพและยั่งยืน จำนวน 343,746.7 ล้านบาท หรือคิดเป็นร้อยละ 13.6 ของวงเงินงบประมาณ เพื่อการดำเนินการที่สำคัญ ประกอบด้วย การบริหารจัดการเศรษฐกิจมหภาคให้เกิดความยั่งยืน, การส่งเสริมประสิทธิภาพการผลิตและสร้างมูลค่าภาคการเกษตร, การเสริมสร้างเสถียรภาพราคาสินค้าเกษตร, การยกระดับรายได้และเพิ่มกำลังซื้อของประชาชน, การส่งเสริมให้ประชาชนเข้าถึงแหล่งทุน, การยกระดับความสามารถในการแข่งขันของภาคอุตสาหกรรม และการยกระดับความสามารถในการแข่งขันของภาคอุตสาหกรรม เป็นต้น

ยุทธศาสตร์ที่ 4 การศึกษา คุณธรรม จริยธรรม คุณภาพชีวิต และความเท่าเทียมกันในสังคมจำนวน 849,861.9 ล้านบาท หรือคิดเป็นร้อยละ 33.7 ของวงเงินงบประมาณ เพื่อการดำเนินการที่สำคัญ เช่น การขยายโอกาสและพัฒนาคุณภาพการศึกษา การพัฒนาระบบประกันสุขภาพ การป้องกัน ปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบในภาครัฐ, การป้องกัน ปราบปราม และบำบัดรักษาผู้ติดยาเสพติด การเพิ่มประสิทธิภาพการบริหารจัดการและคุ้มครองแรงงาน เป็นต้น

ยุทธศาสตร์ที่ 5 การจัดการทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม จำนวน 112,288.5 ล้านบาท หรือคิดเป็นร้อยละ 4.4 ของวงเงินงบประมาณ เพื่อการดำเนินการที่สำคัญ ประออบด้วย การป้องกันและลดผลกระทบจากการเปลี่ยนแปลงสภาวะภูมิอากาศ, การส่งเสริมการบริหารจัดการน้ำอย่างบูรณาการ, การอนุรักษ์และจัดการทรัพยากรธรรมชาติ, การจัดการสิ่งแวดล้อม และการจัดการภัยพิบัติ

ยุทธศาสตร์ที่ 6 การพัฒนาวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี การวิจัยและนวัตกรรม จำนวน 21,323.8 ล้านบาท หรือคิดเป็นร้อยละ 0.8 ของวงเงินงบประมาณ เพื่อดำเนินงานที่สำคัญ คือ การส่งเสริมการวิจัยและพัฒนา และการพัฒนาวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี และนวัตกรรม

ยุทธศาสตร์ที่ 7 การต่างประเทศและเศรษฐกิจระหว่างประเทศ จำนวน 9,004.5 ล้านบาท หรือคิดเป็นร้อยละ 0.4 ของวงเงินงบประมาณ เพื่อการดำเนินการที่สำคัญ คือ การส่งเสริมความสัมพันธ์ระหว่างประเทศและรักษาผลประโยชน์ของชาติ

ยุทธศาสตร์ที่ 8 การบริหารกิจการบ้านเมืองที่ดี จำนวน 351,339.9 ล้านบาท หรือคิดเป็นร้อยละ 13.9 ของวงเงินงบประมาณ เพื่อการดำเนินการที่สำคัญ คือ การปฏิรูปกฎหมายและพัฒนากระบวนการยุติธรรม, การพัฒนาประสิทธิภาพการบริหารราชการแผ่นดิน, การส่งเสริมการกระจายอำนาจให้แก่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น, การส่งเสริมการพัฒนาจังหวัดและกลุ่มจังหวัด และการสนับสนุนการจัดการของรัฐสภา ศาล องค์กรตามรัฐธรรมนูญและหน่วยงานอิสระตามรัฐธรรมนูญ

รายการค่าดำเนินการภาครัฐ จำนวน 481,644.3 ล้านบาท หรือคิดเป็นร้อยละ 19.1 ของวงเงินงบประมาณ เพื่อการดำเนินการที่สำคัญ คือ การบริหารเพื่อรองรับกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น การบริหารบุคลากรภาครัฐ การบริหารจัดการหนี้ภาครัฐ และรายจ่ายเพื่อชดใช้เงินคงคลัง

"ดิฉันและคณะรัฐมนตรีได้ตระหนักอยู่เสมอว่าการบริหารราชการแผ่นดินภายใต้บริบทที่มีความท้าท้ายและเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว จำเป็นต้องมียุทธศาสตร์ประเทศที่ชัดเจน แข่งขันได้ และสร้างความผาสุกอย่างยั่งยืนให้กับประชาชน ร่าง พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2557 ที่นำเสนอฉบับนี้ จัดทำขึ้นเพื่อขับเคลื่อน "ยุทธศาสตร์ประเทศ" ให้เกิดผลเป็นรูปธรรม จึงหวังว่าท่านประธานและท่านสมาชิกผู้ทรงเกียรติจะได้ให้การสนับสนุนและพิจารณารับหลักการของร่าง พ.ร.บ.งบประมาณฉบับนี้ เพื่อรัฐบาลจะได้ยึดถือเป็นหลักในการใช้จ่ายงบประมาณแผ่นดินให้เกิดประโยชน์สูงสุดแก่ประเทศชาติและประชาชนสืบไป" นายกรัฐมนตรี กล่าว

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ