CEO ใหม่"ไอเอ็นจี ประกันชีวิต"มุ่งเป้าขยายกลุ่มลุกค้าไปยังผู้สูงอายุ เล็งเพิ่มเป้าแชร์

ข่าวเศรษฐกิจ Wednesday May 29, 2013 18:00 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายไมค์ แพล็กซ์ตัน ประธานเจ้าหน้าที่บริหารหาร บมจ. ไอเอ็นจี ประกันชีวิต เปิดเผยว่า หลังจากได้รับการแต่งตั้งจากแปซิฟิค เซ็นจูรี่ กรุ๊ป ให้ดำรงตำแหน่งประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ได้มีการตั้งเป้าหมายไว้ว่าจะมีส่วนแบ่งการตลาดเพิ่มขึ้นติดอันดับ 1 ใน 5 จากปัจจุบันที่อันดับ 9 ของประเทศไทย ภายในระยะเวลา 5 ปี

ขณะนี้บริษัทอยู่ระหว่างการดำเนินการสร้างภาพลักษณ์องค์กรและชื่อบริษัทใหม่ สำหรับชื่อบริษัทใหม่ที่จะมีการเปิดตัวในอีกไม่กี่เดือนข้างหน้าจะสะท้อนถึงความมุ่งมั่นในการดำเนินธุรกิจประกันและการสร้างปรากฏการณ์ใหม่ในวงการ โดยบริษัททยอยพัฒนาผลิตภัณฑ์ที่ใหม่และยังไม่มีการนำเสนอในตลาดมาก่อน การเคลื่อนไหวครั้งนี้จะมัดใจลูกค้าและช่วยกระตุ้นให้ธุรกิจเติบโตต่อไป ทั้งนี้ กลุ่มแปซิฟิก เซ็นจูรี่ กรุ๊ปได้เข้ามาซื้อกิจการไอเอ็นจีเมื่อวันที่ 28 ก.พ.ที่ผ่านมา และไอเอ็นจีประกันชีวิตไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับไอเอ็นจีกรุ๊ปหรือบริษัทในเครืออีกต่อไป

สำหรับวิสัยทัศน์ด้านกลยุทธ์ในการผลักดันให้บริษัทเติบโตในภูมิภาคเอเชีย โดยใช้กลยุทธ์ยึดหลักลูกค้าเป็นศูนย์กลาง ซึ่งบริษัทจะสร้างสรรค์ผลิตภัณฑ์และนวัตกรรมใหม่ๆ ด้วยเทคโนโลยีที่ง่ายต่อการใช้งาน สำหรับการสร้างรากฐานของธุรกิจและการปฏิบัติการให้แข็งแรงนั้น บริษัทจะยกระดับและมาตรฐานการให้บริการที่ดีแก่ลูกค้า พร้อมเน้นการให้บริการเพื่อเพิ่มความพึงพอใจสูงสุดแก่ลูกค้าในด้านบริการและคำแนะนำที่เปี่ยมด้วยคุณภาพ รวมไปถึงการพัฒนาผลิตภัณฑ์ที่ตอบสนองต่อความต้องการของลูกค้าที่หลากหลาย โดยใช้กลยุทธ์ดังต่อไปนี้

กลยุทธ์การสร้างระดับความสัมพันธ์กับลูกค้าเพิ่มมากขึ้น โดยบริษัทจะพัฒนาความสัมพันธ์และสร้างความรู้สึกภักดีต่อบริษัท (Customer loyalty) ในหมู่ลูกค้าโดยผ่านกิจกรรมและโครงการต่าง ๆ ของบริษัท อีกทั้งบริษัทจะมุ่งเน้นพัฒนาผลิตภัณฑ์ เพื่อตอบทุกโจทย์ความต้องการของลูกค้าด้วยผลิตภัณฑ์ที่ตรงกับไลฟ์สไตล์ของคนทุกกลุ่ม โดยผลิตภัณฑ์ที่ว่าจะครอบคลุมถึงการประกันชีวิต การลงทุนด้านการเงิน และชำระเบี้ยประกันภัย โดยบริษัทได้เล็งเห็นการเติบโตในตลาดชนชั้นกลางและผู้สูงอายุ ซึ่งบริษัทมีแผนจะขยายผลิตภัณฑ์ไปยังกลุ่มเหล่านี้ด้วยแบบประกันสุขภาพ แบบประกันผู้เกษียณอายุ และแบบประกันที่มีความยืดหยุ่นต่อลูกค้า

กลยุทธ์การสร้างความแข็งแกร่งให้กับทุกช่องทางการจัดจำหน่ายของบริษัท บริษัทให้ความสำคัญกับบุคลากรฝ่ายขายเนื่องจากเป็นหลักสำคัญในการสร้างความเติบโตของบริษัท รวมทั้งการสร้างความสัมพันธ์อันแข็งแกร่งกับพันธมิตร เช่น ธนาคารทหารไทย (TMB) โดยบริษัทจะจัดให้มีการอบรมและสนับสนุนทุกช่องทางการขายให้กับบุคคลากรฝ่ายขายได้พัฒนาศักยภาพอย่างหลากหลาย และผลักดันให้บุคลากรเหล่านี้ได้เข้าถึงโอกาสที่ดีที่สุดในการประกอบอาชีพ รวมถึงการขยายโอกาสช่องทางการจัดจำหน่ายไปสู่ธุรกิจที่บริษัทร่วมมือกับพันธมิตรอื่นๆ

กลยุทธ์ที่สำคัญอีกประการหนึ่ง คือ ด้วยหลักความคิดที่ว่าบริษัทจะเติบโตได้จะต้องมีบุคลากรที่มีศักยภาพความสามารถ ตนจึงให้ความสำคัญกับการพัฒนาศักยภาพและความสามารถของบุคลากรในบริษัท โดยเชื่อมั่นว่าการพัฒนาบุคลากรจะนำไปสู่พื้นฐานที่ทำให้พนักงานมีปฏิสัมพันธ์ที่ดีกับคนรอบข้าง ทำให้ทักษะถูกพัฒนา และความรู้เพิ่มพูน ซึ่งจะส่งผลต่อบริษัทในการให้ลูกค้าเป็นศูนย์กลางความสำคัญ บุคลากรที่ได้รับการพัฒนาความสามารถยังเป็นกลุ่มที่สร้างแบรนด์ให้กับบริษัท รวมทั้งสร้างสรรค์ระบบและนวัตกรรมผลิตภัณฑ์และนำเสนอบริการนั้นต่อลูกค้าอีกด้วย

นายไมค์ กล่าวว่า โอกาสในการเติบโตในอนาคตโดยบริษัทจะขยายธุรกิจไปยังกลุ่มใหม่ ๆ โดยมองว่าปัจจัยด้านประชากรสูงอายุที่เพิ่มจำนวนขึ้น ความมั่งคั่งในภูมิภาค ความคาดหวังที่สูงขึ้นในเรื่องของการรักษาพยาบาลที่เพิ่มสูงขึ้นจะทำให้กลุ่มประกันสุขภาพและประกันเพื่อการเกษียณอายุกลายเป็นเป้าหมายที่บริษัทประกันทั้งหลายจะเข้ามาชิงส่วนแบ่ง บริษัทมีแนวโน้มจะเข้าไปลงทุนในตลาดที่กำลังจะเกิดใหม่เหล่านี้เช่นกัน โดยใช้กลยุทธ์มองการณ์ไกลและนำเสนอผลิตภัณฑ์ที่เป็นแนวคิดใหม่ในตลาด ทั้งนี้เพื่อให้เป็นไปตามเป้าหมายของบริษัท คือ การมอบผลตอบแทนผลตอบแทนระยะยาวแก่ผู้ถือหุ้น


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ