นายวิลเลียมส์กล่าวว่า หากมีสัญญาณที่ดีต่อเนื่องจากตลาดแรงงานและภาวะเศรษฐกิจโดยรวม เขาเชื่อว่าอาจจะมีการปรับสัดส่วนการซื้อพันธบัตรในช่วงฤดูร้อน โดยอาจจะเป็นการปรับลดลงเล็กน้อย
ทั้งนี้ เฟดได้ดำเนินโครงการซื้อพันธบัตรรัฐบาลและหลักทรัพย์ที่มีสัญญาจำนองค้ำประกัน (MBS) ของหน่วยงานที่รัฐบาลให้การสนับสนุน วงเงินราว 8.5 หมื่นล้านดอลลาร์ต่อเดือน เพื่อช่วยกระตุ้นให้เศรษฐกิจมีการขยายตัวและทำให้อัตราว่างงานลดลง
ส่วนนายเดนนิส ล็อคฮาร์ท ประธานเฟดสาขาแอตแลนตา กล่าวว่าเฟดใกล้ที่จะพิจารณาปรับลดขนาดการซื้อสินทรัพย์ ซึ่งเป็นความพยายามในการกระตุ้นเศรษฐกิจ โดยระบุว่ามีความเป็นไปได้ที่เฟดจะชะลอการซื้อในการประชุมนโยบายครั้งต่อๆไป
นายล็อคฮาร์ทระบุปัจจัยที่จะทำให้เขาสนับสนุนการชะลอมาตรการดังกล่าว ซึ่งก็คือข้อมูลเศรษฐกิจล่าสุด ประกอบกับความเชื่อมั่นที่ว่าเศรษฐกิจได้ปรับตัวดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง
อย่างไรก็ตาม ประธานเฟดแอตแลนตากล่าวว่า จะเป็นการเร็วเกินไปที่จะยุติโครงการดังกล่าวในขณะนี้ เนื่องจากสถานการณ์ปัจจุบันยังไม่มีความเหมาะสม
การแสดงความคิดเห็นของบรรดาเจ้าหน้าที่ระดับสูงของเฟดครั้งล่าสุดนี้ มีขึ้นหลังจากที่เมื่อคืนนี้มีการรายงานข้อมูลเศรษฐกิจที่ย่ำแย่ โดยสถาบันจัดการด้านอุปทานของสหรัฐ (ISM) เปิดเผยว่ากิจกรรมทางเศรษฐกิจในภาคการผลิตของสหรัฐในเดือนพ.ค.ลดลงแตะ 49.0 จาก 50.7 ในเดือนเม.ย. โดยระดับที่ต่ำกว่า 50 บ่งชี้ว่าภาคการผลิตเผชิญกับภาวะหดตัว
ISM ระบุว่ากิจกรรมภาคการผลิตในเดือนพ.ค.ออกมาต่ำกว่าคาด และเป็นการหดตัวครั้งแรกนับแต่เดือนพ.ย.2555 หรือในรอบ 6 เดือน
ข้อมูลภาคการผลิตของสหรัฐที่อ่อนแรงเกินคาดดังกล่าวได้หนุนความหวังที่ว่าเฟดจะยังคงเดินหน้านโยบายผ่อนคลายการเงินต่อไปเพื่อช่วยให้เศรษฐกิจของประเทศมีการฟื้นตัวอย่างยั่งยืนมากกว่านี้ ซึ่งส่งผลให้ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดพุ่งขึ้นเมื่อคืนนี้