นอกจากนี้เพื่ออำนวยความสะดวกสำหรับการเพิ่มสำรองน้ำมันของเอกชน ทางกรมฯ จะมีการแก้ไขกฏระเบียบให้โรงกลั่นสามารถจัดเก็บสำรองจากน้ำมันดิบเป็นน้ำมันสำเร็จรูปได้ รวมทั้งให้ผู้ประกอบการสามารถฝากเช่าในคลังของผู้อื่นได้ โดยเท่าที่หารือกับเอกชนในขณะนี้พบว่า เชลล์ และเอสโซ่ มีคลังไม่เพียงพอสำหรับการสำรองเพิ่ม ส่วนไออาร์พีซีและสีชังเทอร์มินอล มีถังเหลือสำหรับการให้รายอื่นเช่าได้ถึงรายละ 1 ล้านบาร์เรล
"การเพิ่มสำรองน้ำมันจะช่วยสร้างความมั่นคงด้านพลังงาน โดยการเพิ่มสำรองภาคเอกชนจะทำให้สำรองน้ำมันเพิ่มอีกกว่า 4 ล้านบาร์เรล เป็นประมาณ 23 ล้านบาร์เรล ต้นทุนที่เพิ่มขึ้นก็จะมีผลให้ราคาน้ำมันขยับขึ้นเล็กน้อย" นายวีระพล กล่าว
นายวีระพล กล่าวว่า ส่วนของการขยายท่อขนส่งน้ำมันจากสระบุรีไปภาคเหนือ(พิษณุโลก) และภาคอีสาน(ขอนแก่น) จะมีการประชุมร่วมกับทางบริษัท ท่อส่งปิโตรเลียมไทย(แทปไลน์) ภายในเดือนนี้ โดยทางแทปไลน์กำลังศึกษารายละเอียดเรื่องการลงทุน การเสนอสิทธิประโยชน์ รวมทั้งปัญหาการรอนสิทธิ์ที่ดินด้วย ซึ่งการสร้างท่อขนส่งดังกล่าวจะช่วยให้ราคาน้ำมันที่คลังในต่างจังหวัดมีราคาเดียวกัน ราคาขายปลีกในต่างจังหวัดลดลงเป็นประโยชน์ต่อผู้บริโภค