การรายงานยอดขาดดุลการค้าของสหรัฐประเดือนเม.ย.ในวันนี้ใกล้เคียงกับที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ว่าจะเพิ่มขึ้นแตะระดับ 4.15 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ โดยมีสาเหตุจากยอดนำเข้าที่ทะยานขึ้น 5.4 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ ขณะที่ยอดส่งออกเพิ่มขึ้นเพียง 2.2 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ
ยอดขาดดุลการค้าของสหรัฐที่ได้รับรายงานล่าสุดนี้เป็นหลักฐานล่าสุดที่ชี้ให้เห็นว่าเศรษฐกิจสหรัฐได้รับอิทธิพลจากผู้บริโภคซึ่งมีการจับจ่ายและใช้เงินเพื่อกับการซื้อรถยนต์จากต่างประเทศ โทรศัพท์มือถือ รวมถึงซื้อสินค้าในกลุ่มเสื้อผ้า เวชภัณฑ์ และสินค้าอื่น ๆ
ทั้งนี้ สหรัฐมียอดขาดดุลการค้ากับจีนเพิ่มขึ้น 35% แตะที่ 2.41 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ ส่วนยอดขาดดุลการค้ากับเกาหลีใต้พุ่งแตะระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ที่ 2.4 พันล้านดอลลาร์สหรัฐอันเนื่องมายอดนำเข้าที่พุ่งสูงขึ้น
นอกจากนี้ ในปีนี้ สหรัฐมียอดส่งออกไปสหภาพยุโรป (อียู) ลดลง 7.4% เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีที่ผ่านมา เนื่องจากยุโรปเผชิญภาวะถดถอย
รายงานล่าสุดนี้ยังระบุแนวโน้มเศรษฐกิจในวงกว้าง เช่น อุปสงค์น้ำมันนำเข้าที่ลดลงอันเนื่องมาจากหลายปัจจัย อาทิ ผลผลิตน้ำมันภายในประเทศที่ปรับตัวสูงขึ้นและจำนวนรถประหยัดน้ำมันที่เพิ่มขึ้น โดยยอดนำเข้าน้ำมันในเดือนเม.ย.ปรับตัวลดลงแตะระดับต่ำสุดนับตั้งแต่เดือนพ.ย. 2553