กฟผ.-กรมชลฯ ร่วมพัฒนาโรงไฟฟ้าพลังน้ำท้ายเขื่อนส่งเสริมพลังงานหมุนเวียน

ข่าวเศรษฐกิจ Monday June 10, 2013 18:00 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย(กฟผ.) ร่วมกับกรมชลประทาน ลงนามบันทึกข้อตกลงพัฒนาโครงการโรงไฟฟ้าพลังน้ำขนาดเล็กท้ายเขื่อนคลองตรอน และเขื่อนกิ่วคอหมาในภาคเหนือ ขนาดกำลังผลิต 8 เมกะวัตต์ เพื่อบูรณาการการบริหารจัดการน้ำอย่างยั่งยืน และส่งเสริมการพัฒนาพลังงานหมุนเวียนตามนโยบายภาครัฐ

นายสุทัศน์ ปัทมสิริวัฒน์ ผู้ว่าฯ กฟผ. กล่าวว่า การลงนามบันทึกข้อตกลงพัฒนาโครงการโรงไฟฟ้าพลังน้ำขนาดเล็กท้ายเขื่อนชลประทาน เขื่อนคลองตรอน จ.อุตรดิตถ์ และเขื่อนกิ่วคอหมา จ.ลำปาง ดังกล่าวได้รับอนุมัติจากคณะรัฐมนตรีให้ดำเนินงานก่อสร้างเมื่อวันที่ 18 ต.ค.54 โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อบูรณาการการบริหารจัดการน้ำให้ได้ประโยชน์สูงสุด และส่งเสริมการพัฒนาพลังงานหมุนเวียนในการผลิตไฟฟ้าตามนโยบายกระทรวงพลังงาน โดยใช้หลักการนำน้ำจากการระบายเพื่อประโยชน์ด้านการเกษตรตามปกติของเขื่อนกรมชลประทานมาผ่านเครื่องผลิตไฟฟ้าที่ติดตั้งไว้ท้ายเขื่อน ทำให้ได้ประโยชน์ด้านพลังงานไฟฟ้าอีกทางหนึ่ง

สำหรับโรงไฟฟ้าพลังน้ำเขื่อนคลองตรอน จ.อุตรดิตถ์ มีขนาดกำลังผลิตรวม 2.5 เมกะวัตต์ ประกอบด้วยเครื่องกำเนิดไฟฟ้าจำนวน 2 ชุด กำลังผลิตชุดละ 1.25 เมกะวัตต์ และโรงไฟฟ้าพลังน้ำเขื่อนกิ่วคอหมา จ.ลำปาง ขนาดกำลังผลิตรวม 5.5 เมกะวัตต์ ประกอบด้วยเครื่องกำเนิดไฟฟ้าจำนวน 3 ชุด ชุดที่ 1 และ 2 มีกำลังผลิตชุดละ 2.5 เมกะวัตต์ ชุดที่ 3 กำลังผลิต 0.5 เมกะวัตต์ โดยทั้ง 2 เขื่อนมีกำหนดจ่ายไฟฟ้าเข้าระบบในปี 59 ซึ่งหากดำเนินการบรรลุตามแผนจะสามารถผลิตไฟฟ้าเสริมระบบได้ประมาณ 45 ล้านหน่วยต่อปี คิดเป็นเงิน 132 ล้านบาทต่อปี สามารถลดการนำเข้าเชื้อเพลิงต่างประเทศได้ 167 ล้านบาทต่อปี และลดปริมาณก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ที่เป็นสาเหตุทำให้เกิดโลกร้อนลงได้ 26,155 ตันต่อปี

ทั้งนี้ กฟผ.และกรมชลประทานได้ร่วมมือกันในการพัฒนาโรงไฟฟ้าพลังน้ำท้ายเขื่อนขลประทานมาตั้งแต่ปี 50 จำนวน 6 เขื่อน ขนาดกำลังผลิตรวม 78.7 เมกะวัตต์ ได้แก่ 1.โรงไฟฟ้าพลังน้ำเขื่อนเจ้าพระยา จ.ชัยนาท กำลังผลิต 12 เมกะวัตต์ จ่ายไฟฟ้าเข้าระบบแล้วตั้งแต่ปี 2553 2.โรงไฟฟ้าพลังน้ำเขื่อนนเรศวร จ.พิษณุโลก กำลังผลิต 8 เมกะวัตต์ ก่อสร้างแล้วเสร็จ กำหนดจ่ายไฟเข้าระบบปลายปี 2556 3.โรงไฟฟ้าพลังน้ำเขื่อนขุนด่านปราการชล จ.นครนายก กำลังผลิต 10 เมกะวัตต์ ก่อสร้างแล้วเสร็จ กำหนดจ่ายไฟเข้าระบบภายในปี 2556

4.โรงไฟฟ้าพลังน้ำเขื่อนแม่กลอง จ.กาญจนบุรี กำลังผลิต 12 เมกะวัตต์ อยู่ระหว่างการก่อสร้าง คาดจ่ายไฟเข้าระบบภายในปี 2556 5.โรงไฟฟ้าพลังน้ำเขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ จ.ลพบุรี กำลังผลิต 6.7 เมกะวัตต์ อยู่ระหว่างดำเนินการก่อสร้าง คาดจ่ายไฟเข้าระบบปลายปี 2556 และ 6.โรงไฟฟ้าพลังน้ำเขื่อนแควน้อยบำรุงแดน จ.พิษณุโลก กำลังผลิต 30 เมกะวัตต์ อยู่ระหว่างดำเนินการก่อสร้าง คาดจ่ายไฟเข้าระบบในปี 2558

ทั้งนี้ หากรวมโรงไฟฟ้าพลังน้ำเขื่อนคลองตรอน จ.อุตรดิตถ์ และโรงไฟฟ้าพลังน้ำเขื่อนกิ่วคอหมา จ.ลำปาง จะได้กำลังผลิตติดตั้งจากโรงไฟฟ้าพลังน้ำท้ายเขื่อนชลประทานทั้งสิ้น จำนวน 86.7 เมกะวัตต์ สามารถผลิตไฟฟ้าเพื่อเสริมระบบได้รวม 425 ล้านหน่วยต่อปี หรือคิดเป็นเงิน 1,275 ล้านบาทต่อปี ลดการนำเข้าเชื้อเพลิงจากต่างประเทศได้รวม 1,641 ล้านบาทต่อปี และลดปริมาณก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ได้รวม 242,250 ตันต่อปี

กฟผ.เล็งเห็นถึงประโยชน์และความสำคัญของการพัฒนาโรงไฟฟ้าจากพลังงานหมุนเวียน เพื่อเป็นต้นแบบให้เกิดการพัฒนาต่อยอดให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุด ซึ่งโรงไฟฟ้าพลังงานหมุนเวียนที่ กฟผ.ได้ก่อสร้างและจ่ายไฟฟ้าเข้าระบบแล้ว คือ โรงไฟฟ้ากังหันลมลำตะคอง โรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์เขื่อนสิรินธร และโรงไฟฟ้าพลังน้ำท้ายเขื่อนชลประทาน โดยเฉพาะโรงไฟฟ้าพลังน้ำท้ายเขื่อนฯ ซึ่งมีอายุการใช้งานยาวนาน มีต้นทุนการผลิตที่ถูกกว่าการผลิตไฟฟ้าด้วยพลังงานหมุนเวียนชนิดอื่น จึงสามารถช่วยลดผลกระทบค่าไฟฟ้าลงได้ ขณะเดียวกัน กฟผ.ยังอยู่ระหว่างการศึกษาโครงการโรงไฟฟ้าพลังน้ำท้ายเขื่อนอีก 23 แห่ง


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ