เงินบาทปิด 31.08/10 เคลื่อนไหวในกรอบแคบตามภูมิภาค รอปัจจัยใหม่

ข่าวเศรษฐกิจ Thursday July 4, 2013 17:31 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นักบริหารเงินจากธนาคารกรุงศรีอยุธยา เปิดเผยว่า เงินบาทปิดตลาดเย็นนี้อยู่ที่ระดับ 31.08/10 บาท/ดอลลาร์ จากช่วงเช้าที่ระดับ 31.05/07 บาท/ดอลลาร์ เคลื่อนไหวตามค่าเงินในภูมิภาค เนื่องจากยังไม่มีปัจจัยใหม่เข้ามา ระหว่างวันเงินบาทเคลื่อนไหวในกรอบ 31.07-31.10 บาท/ดอลลาร์
"เงินบาทเคลื่อนไหวในกรอบแคบๆ ตามภูมิภาค ค่อนข้างเงียบ วอลุ่มเบาบาง เพราะตลาดสหรัฐปิดเนื่องในวันชาติ" นักบริหารเงิน กล่าว

นักลงทุนรอดูประกาศตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรของสหรัฐในวันพรุ่งนี้ สำหรับทิศทางของเงินบาทในวันพรุ่งนี้ประเมินกรอบการเคลื่อนไหวไว้ระหว่าง 31.00-31.20 บาท/ดอลลาร์เท่าเดิม

  • ปัจจัยสำคัญ
  • เงินเยนอยู่ที่ระดับ 99.64/68 เยน/ดอลลาร์ จากช่วงเช้าที่ระดับ 99.90 เยน/ดอลลาร์
  • เงินยูโรอยู่ที่ระดับ 1.3001/3003 ดอลลาร์/ยูโร จากช่วงเช้าที่ระดับ 1.2998 ดอลลาร์/ยูโร
  • ดัชนี SET ปิดวันนี้ที่ระดับ 1,430.88 จุด ลดลง 12.69 จุด, -0.88% มูลค่าการซื้อขาย 44,212.08 ล้านบาท
  • สรุปปริมาณการซื้อขายรายกลุ่ม ต่างชาติซื้อสุทธิ 115.32 ล้านบาท(SET+MAI)
  • นายบัณฑูร ล่ำซำ ประธานกรรมการ ธนาคารกสิกรไทย(KBANK) คาดว่า การประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) วันที่ 10 ก.ค.นี้ กนง.จะนำปัจจัยหลังจากหลายองค์กรปรับประมาณการอัตราการขยายตัวทางเศรษฐกิจของไทยลง รวมถึงหนี้ภาคครัวเรือนที่ปรับตัวสูงขึ้น และสัญญาณฟองสบู่ในหลาย ๆ ด้าน มาพิจารณาทิศทางอัตราดอกเบี้ยนโยบายในครั้งนี้
  • ศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจและธุรกิจ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย เตรียมจะแถลงการณ์ปรับประมาณการเศรษฐกิจไทยในปี 56 โดยคาดว่าจะปรับ GDP ในปีนี้ลงเหลือ 4-4.5% จากเดิมที่คาดไว้ 4.8-5.2% ซึ่งจะมีการแถลงในรายละเอียดอีกครั้งวันที่ 8 ก.ค.56 พร้อมเสนอว่า ในช่วงที่ภาวะเศรษฐกิจของไทยอยู่ในช่วงชะลอตัวจากปัญหากำลังซื้อและการบริโภคในประเทศที่ซึมตัวลงนั้น รัฐบาลควรใช้มาตรการทางการคลังเข้ามาเป็นตัวช่วยในการกระตุ้นเศรษฐกิจและกระตุ้นการบริโภคในประเทศให้เพิ่มขึ้น
  • นักวิเคราะห์คาดตัวเลขจ้างงานนอกภาคการเกษตรของสหรัฐเดือน มิ.ย.ที่จะมีการเปิดเผยในวันพรุ่งนี้จะเพิ่มขึ้น 165,000 ตำแหน่ง หลังจากที่ภาคเอกชนมีการจ้างงานสูงกว่าที่คาด ส่วนจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานก็ร่วงลง โดยผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานครั้งแรกในรอบสัปดาห์ที่สิ้นสุดวันที่ 29 มิ.ย. ปรับตัวลดลง 5,000 ราย มาอยู่ที่ 343,000 ราย ส่งสัญญาณว่าตลาดแรงงานสหรัฐกำลังกระเตื้องขึ้นอย่างต่อเนื่องแม้ว่าจะช้าก็ตาม และเมื่อเดือนที่แล้ว กระทรวงแรงงานสหรัฐเผยตัวเลขจ้างงานนอกภาคเกษตรปรับตัวเพิ่มขึ้น 175,000 ตำแหน่งในเดือน พ.ค. ส่วนอัตราว่างงานขยับขึ้นแตะ 7.6% ในเดือน พ.ค.จาก 7.5% ในเดือน เม.ย.
  • นักวิเคราะห์คาดธนาคารกลางอังกฤษจะคงอัตราดอกเบี้ยไว้ที่ 0.5% ในการประชุมวันนี้ ทั้งนี้ธนาคารกลางอังกฤษมีมติคงอัตราดอกเบี้ยไว้ที่ 0.5% ในการประชุมเมื่อวันที่ 6 มิ.ย.ที่ผ่านมา พร้อมกับคงขนาดโครงการซื้อพันธบัตรที่วงเงิน 3.75 แสนล้านปอนด์ หรือ 5.77 แสนล้านดอลลาร์
  • ธนาคารกลางญี่ปุ่น(BOJ) ปรับเพิ่มการประเมินเขตเศรษฐกิจระดับภูมิภาค 8 ภูมิภาค จาก 9 ภูมิภาค เมื่อเทียบกับสถิติในช่วง 3 เดือนก่อนหน้านี้ เนื่องจากได้รับปัจจัยหนุนเรื่องความเชื่อมั่นผู้บริโภค บริษัท และเศรษฐกิจของต่างประเทศที่ดีขึ้น
  • ราคาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส(WTI) ทะลุระดับ 100 ดอลลาร์/บาร์เรลในการซื้อขายที่ตลาด NYMEX เมื่อคืนนี้ ท่ามกลางความกังวลที่ว่าเหตุจลาจลในอียิปต์อาจจะทำให้การส่งออกน้ำมันจากตะวันออกกลางได้รับผลกระทบ บรรดาผู้จับตาความเคลื่อนไหวในตลาดเชื่อว่า ราคาน้ำมันสหรัฐน่าจะยังคงปรับตัวขึ้นจากความไม่แน่นอนที่เกิดขึ้นในประเทศผู้ผลิตน้ำมันในตะวันออกกลาง รวมทั้งจากข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐที่แข็งแกร่งขึ้น
  • นายฮารุฮิโกะ คูโรดะ ผู้ว่าการธนาคารกลางญี่ปุ่น(บีโอเจ) ยืนยันจะยังคงใช้มาตรการผ่อนคลายทางการเงินเชิงปริมาณและคุณภาพต่อไป เพื่อที่จะบรรลุเป้าหมายเงินเฟ้อที่ 2% ให้ได้ เนื่องจากมาตรการดังกล่าวเป็นสิ่งที่จำเป็นสำหรับการดูแลเป้าหมายดังกล่าวอย่างมีเสถียรภาพ
  • ผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลญี่ปุ่นอายุ 10 ปี ปิดลดลงในวันนี้ เพราะได้รับแรงหนุนจากแรงซื้อทรัพย์สินที่มีความปลอดภัยอันเนื่องมาจากเหตุการณ์ความไม่สงบทางการเมืองในอียิปต์ โดยอัตราผลตอบแทนพันธบัตรหมายเลข 329 ซึ่งเป็นมาตรวัดอัตราดอกเบี้ยระยะยาว ปิดที่ 0.860% ลดลง 0.020% จากระดับปิดเมื่อวานนี้ ส่วนราคาสัญญาล่วงหน้าพันธบัตรอายุ 10 ปีส่งมอบเดือนกันยายน เพิ่มขึ้น 0.13 จุด ปิดที่ระดับ 142.48 ในตลาดหุ้นโตเกียว
  • ธนาคารกลางสหรัฐ(เฟด) มีมติเป็นเอกฉันท์อนุมัติข้อกำหนดที่เข้มงวดขึ้นเกี่ยวกับจำนวนเงินทุนสำรองที่ธนาคารพาณิชย์ควรถือครองไว้เพื่อรองรับกับการขาดทุนที่ไม่คาดคิด อันเป็นแนวทางหนึ่งเพื่อป้องกันระบบการเงินให้รอดพ้นจากความเสี่ยงต่างๆ ซึ่งจะส่งผลให้มีการเปลี่ยนแปลงบางประการในกฎหมายปฏิรูปด้านการเงินฉบับปี 2553 และจะสอดคล้องตามเกณฑ์บาเซิล 3(Basel III) โดยคณะกรรมการบาเซิล 3 เป็นผู้กำหนดใช้กรอบข้อบังคับด้านเงินทุนที่ช่วยแก้ปัญหาจุดอ่อนในการดำรงเงินกองทุน โดยเฉพาะอย่างยิ่งสำหรับองค์กรในด้านการธนาคารระหว่างประเทศ ทั้งนี้ข้อกำหนดดังกล่าวจะต้องผ่านความเห็นชอบจากบรรษัทประกันเงินฝากของรัฐบาลกลางสหรัฐ(FDIC) และสำนักงานคลังของสหรัฐ(OCC) ซึ่งคาดว่าจะดำเนินการอย่างเร็วในสัปดาห์หน้า
  • แคชเธอรีน แอชตัน ประธานด้านนโยบายต่างประเทศของสหภาพยุโรป(EU) ออกแถลงการณ์เรียกร้องให้หน่วยงานทุกภาคส่วนในอียิปต์เดินหน้าเข้าสู่กระบวนการประชาธิปไตยอย่างเร่งด่วน หลังจากนายมูฮัมหมัด มอร์ซี ประธานาธิบดีอิยิปต์คนแรกที่มาจากการเลือกตั้งถูกกองทัพโค่นออกจากตำแหน่ง

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ