TOP คาดราคาน้ำมันดิบเคลื่อนไหวในกรอบ 104-110 ดอลลาร์ จับตาอียิปต์-ตอ.กลาง

ข่าวเศรษฐกิจ Thursday July 25, 2013 10:51 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

บมจ.ไทยออยล์(TOP)ประเมินทิศทางราคาน้ำมันดิบในระยะสั้น โดยคาดราคาน้ำมันดิบสัปดาห์นี้ยังคงเคลื่อนไหวในกรอบเดิม โดยเบรนท์เคลื่อนไหวในกรอบ 104-110 ดอลลาร์สหรัฐ ขณะที่เวสต์เท็กซัสเคลื่อนไหวในกรอบ 103-109 ดอลลาร์สหรัฐ โดยคืนนี้ติดตามยอดผู้ขอรับสิทธิประโยชน์จากการว่างงานของสหรัฐฯ และยอดสั่งซื้อสินค้าคงทน

สำหรับตัวเลขเศรษฐกิจที่น่าติดตามในสัปดาห์นี้ ได้แก่ ยอดสั่งซื้อสินค้าคงทน ยอดผู้ขอรับสิทธิประโยชน์จากการว่างงานของสหรัฐฯ และความรู้สึกผู้บริโภคต่อภาวะเศรษฐกิจสหรัฐฯ

ส่วนปัจจัยที่น่าจับตามอง ได้แก่ความรุนแรงของเหตุการณ์ในอียิปต์ หลังประธานาธิบดีชั่วคราวเร่งจัดตั้งคณะรัฐมนตรีและเตรียมที่จะจัดการเลือกตั้งในอีก 6 เดือนข้างหน้า ขณะที่การชุมนุมของกลุ่มผู้สนับสนุนอดีตประธานาธิบดีมอร์ซียังไม่มีความรุนแรงใดๆ รวมถึงความไม่สงบในตะวันออกกลางและแอฟริกาเหนือ ได้แก่ ซีเรีย ลิเบีย ที่มีอยู่อย่างต่อเนื่องอาจส่งผลกระทบต่อการผลิตและส่งออกน้ำมันดิบของภูมิภาค

ขณะเดียวกันต้องติดตามแนวโน้มของการดำเนินแผนกระตุ้นเศรษฐกิจ (QE4) ที่อาจกระทบต่อการฟื้นตัวของเศรษฐกิจสหรัฐฯ หลังประธานธนาคารกลางสหรัฐฯเคยได้ให้สัมภาษณ์ถึงโอกาสของการชะลอ QE ภายในปีนี้ แต่ยังไม่มีการกำหนดเวลาล่วงหน้า รวมทั้งติดตามตัวเลขปริมาณน้ำมันดิบคงคลังสหรัฐฯ ที่คาดว่าจะปรับลดลงต่อเนื่อง หลังกำลังการผลิตของโรงกลั่นในสหรัฐฯ เพิ่มสูงขึ้น แม้ว่าโรงกลั่นบางแห่งจะมีการปิดซ่อมบำรุง พร้อมจับตาตัวเลขปริมาณน้ำมันเบนซินคงคลังสหรัฐฯ ในช่วงฤดูกาลท่องเที่ยวด้วย

ทั้งนี้ สถานการณ์ราคาน้ำมันล่าสุดเมื่อคืนนี้ราคาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัสส่งมอบ ก.ย. ลดลง 1.84 เหรียญฯ ปิดที่ 105.39 เหรียญฯ ส่วนเบรนท์ส่งมอบ ก.ย. ลดลง 1.23 เหรียญฯ ปิดที่ 107.19 เหรียญฯ ราคาน้ำมันลดลงจากแรงกดดันที่ดัชนีภาคการผลิตของจีน (HSBC PMI) เดือน ก.ค.56 ลดลงมาที่ระดับ 47.7 จาก 48.2 ในเดือน มิ.ย.56 เป็นระดับต่ำสุดในรอบ 11 เดือน และต่ำกว่า 50 ต่อเนื่องเป็นเดือนที่สาม บ่งชี้ว่าภาคการผลิตของจีนมีแนวโน้มชะลอตัวต่อเนื่อง

ขณะที่ดัชนีภาคการผลิตของสหรัฐ(Markit PMI) ปรับตัวเพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ระดับ 53.2 ในเดือน ก.ค. 56 ซึ่งเป็นระดับสูงสุดในรอบ 4 เดือน จากระดับ 51.9 ณ สิ้นเดือน มิ.ย. 56 โดยดัชนีที่สูงกว่าระดับ 50 บ่งชี้ว่ากิจกรรมภาคการผลิตยังคงมีการขยายตัว

ไทยออยล์ ระบุว่า ราคาน้ำมันเบนซินปรับเพิ่มขึ้นมากกว่าราคาน้ำมันดิบดูไบ แม้ว่าภาวะการตึงตัวของอุปทานจะเริ่มผ่อนคลายลง เนื่องจากการกลับมาดำเนินการของโรงกลั่นหลายแห่งในอินเดีย มาเลเซีย และไต้หวันที่ปิดซ่อมไปก่อนหน้านี้ ส่วนราคาน้ำมันมันดีเซลปรับเพิ่มขึ้นมากกว่า เนื่องจากอุปทานยังตึงตัวจากการปิดซ่อมบำรุงโรงกลั่นในภูมิภาคและกำลังการผลิตโรงกลั่นในญี่ปุ่นยังต่ำ อย่างไรก็ดี อุปสงค์ของน้ำมันดีเซลเริ่มอ่อนแรงลง จากการปรับลดลงของแรงซื้อหลักจากอินโดนีเซียและซาอุดิอาระเบีย


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ