เงินบาทปิด 32.06/08 แข็งค่าตามภูมิภาค คาดกรอบพรุ่งนี้ 32.00-32.20

ข่าวเศรษฐกิจ Monday September 2, 2013 17:30 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นักบริหารเงิน กล่าวว่า เงินบาทปิดตลาดเย็นนี้อยู่ที่ระดับ 32.06/08 บาท/ดอลลาร์ แข็งค่าขึ้นจากช่วงเช้าที่เปิดตลาดที่ระดับ 32.14/16 บาท/ดอลลาร์

โดยวันนี้เงินบาทปรับตัวแข็งค่าสุดที่ระดับ 32.06 บาท/ดอลลาร์ และอ่อนค่าสุดที่ระดับ 32.17 บาท/ดอลลาร์ การปรับตัวแข็งค่าขึ้นของเงินบาทในวันนี้เป็นไปในทิศทางเดียวกับค่าเงินสกุลอื่นๆ ในภูมิภาคที่แข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ ประกอบกับยังมีแรงขายดอลลาร์ในตลาด

"วันพรุ่งนี้น่าจะยังมีแรงขาย(ดอลลาร์) ขณะที่วันนี้หุ้นก็บวก แต่ไม่แน่ใจว่า sentiment หุ้นที่บวก และค่าเงินในเอเชียที่แข็งค่าจะยังไปต่อในวันพรุ่งนี้หรือไม่ คงต้องดูเพื่อนบ้านด้วย" นักบริหารเงิน กล่าว

นักบริหารเงิน คาดว่า เงินบาทวันพรุ่งนี้ จะเคลื่อนไหวอยู่ในกรอบ 32.00-32.20 บาท/ดอลลาร์ โดยนักลงทุนยังรอดูตัวเลขเศรษฐกิจของสหรัฐฯ ที่จะประกาศในสัปดาห์นี้ เช่น ข้อมูลการค้าระหว่างประเทศเดือนก.ค., ตัวเลขการจ้างงานทั่วประเทศเดือนส.ค., รายงานการขอรับสวัสดิการการว่างงานรายสัปดาห์ และตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรเดือนส.ค. เป็นต้น

  • ปัจจัยสำคัญ
  • ปิดตลาดเย็นนี้ เงินเยนอยู่ที่ระดับ 99.27 เยน/ดอลลาร์ จากเมื่อเช้าอยู่ที่ระดับ 98.50 เยน/ดอลลาร์
  • ส่วนเงินยูโร อยู่ที่ระดับ 1.3220 ดอลลาร์/ยูโร จากเมื่อเช้าอยู่ที่ระดับ 1.3207 ดอลลาร์/ยูโร
  • ดัชนี SET ปิดวันนี้ที่ระดับ 1,323.70 จุด เพิ่มขึ้น 29.40 จุด, +2.27%
  • สรุปปริมาณการซื้อขายรายกลุ่ม ต่างชาติขายสุทธิ 1,406.99 ลบ.(SET+MAI)
  • กรุงเทพโพลล์ เผยผลสำรวจความเห็นนักเศรษฐศาสตร์ เรื่อง “จีดีพีกับหนี้สาธารณะ" พบว่า นักเศรษฐศาสตร์ส่วนใหญ่ร้อยละ 65.5 เห็นว่าในช่วงปี 2557-2563 ซึ่งเป็นช่วงที่รัฐบาลมีแผนจะลงทุนโครงสร้างพื้นฐานตาม พ.ร.ก.บริหารจัดการน้ำ และ พ.ร.บ.ลงทุนในโครงสร้างพื้นฐาน เศรษฐกิจไทยมีโอกาสกว่า 50% ที่จะขยายตัวเฉลี่ยน้อยกว่าร้อยละ 5.63 ต่อปี (จีดีพี ณ ราคาประจำปี)ซึ่งเป็นอัตราการขยายตัวเฉลี่ยในช่วง 16 ปีที่ผ่านมา
  • กระทรวงพาณิชย์ประกาศอัตราเงินเฟ้อเดือนส.ค.56 เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อน 1.59% ซึ่งเป็นการเพิ่มขึ้นในอัตราที่ชะลอตัวลง ปัจจัยสำคัญมาจากราคาขายปลีกน้ำมันเชื้อเพลิงเดือนส.ค.ปรับลดลงตามราคาตลาดโลก ขณะที่อัตราเงินเฟ้อเฉลี่ย 8 เดือนแรก(ม.ค.-ส.ค.56) เพิ่มขึ้น 2.47%

ทั้งนี้ กระทรวงพาณิชย์ยังคงเป้าหมายเงินเฟ้อทั้งปีที่ 2.8-3.4% โดยขอดูสถานการณ์เศรษฐกิจโลก รวมทั้งเหตุการณ์ในตะวันออกกลางที่จะมีผลต่อราคาน้ำมันในเดือนก.ย.ก่อนที่จะพิจารณาว่าต้องปรับเป้าหมายเงินเฟ้อในปีนี้ใหม่หรือไม่ ส่วนการปรับขึ้นราคาก๊าซหุงต้ม, ค่าผ่านทางด่วน และค่า FT(ค่าไฟฟ้าอัตโนมัติผันแปร) ตั้งแต่เดือนก.ย.นี้ไปนั้นมีผลกระทบต่ออัตราเงินเฟ้อทั้งปีให้เพิ่มขึ้นเพียง 0.1% เท่านั้น

  • ตลาดหุ้นยุโรปเปิดตลาดวันนี้ปรับตัวสูงขึ้น โดยดัชนี Stoxx Europe 600 พุ่ง 1.3% แตะ 301.29 เมื่อเวลา 08.07 น.ตามเวลาลอนดอน เนื่องจากข้อมูลภาคการผลิตจีนที่ขยายตัวขึ้นสูงกว่าการคาดการณ์
  • ผลสำรวจจาก"ไชน่า อินเด็กซ์ อะคาเดมี" ระบุว่าราคาบ้านในเมืองใหญ่ของจีนยังคงปรับตัวขึ้นในเดือนส.ค. โดยราคาบ้านใหม่โดยเฉลี่ยใน 100 เมืองของจีนเพิ่มขึ้น 0.92% จากเดือนก.ค. แตะ 10,442 หยวน/ตร.ม.ในเดือนส.ค. เพิ่มขึ้นเป็นเดือนที่ 15 ติดต่อกันและขยายตัวสูงกว่าเดือนก.ค.อยู่ 0.05%
  • ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคการผลิตของยูโรโซนในเดือนส.ค.ปรับขึ้นแตะ 51.4 จาก 50.3 ในเดือนก.ค. โดย PMI ปรับตัวขึ้นเป็นเดือนที่ 4 ติดต่อกัน และแตะระดับสูงสุดในรอบ 26 เดือน ได้รับแรงหนุนจากข้อมูลภาคการผลิตของประเทศสมาชิกที่สำคัญ เช่น เยอรมนี, อิตาลี และสเปนที่ต่างขยายตัวแตะระดับสูงสุดในรอบกว่า 2 ปี แม้ว่าภาคการผลิตของฝรั่งเศสที่มีเศรษฐกิจขนาดใหญ่เป็นอันดับ 2 ของภูมิภาคจะยังคงเผชิญกับภาวะหดตัวก็ตาม

แท็ก เงินบาท  

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ