สถานการณ์การส่งออกกุ้งไทยไม่เปลี่ยนแปลงไปจากเดิมมากนัก หลังจากสหรัฐอเมริกาเรียกเก็บมาตรการตอบโต้การอุดหนุน(CVD) ในช่วงต้นปี เนื่องจากการขาดแคลนวัตถุดิบจากปัญหาโรค EMS (โรคตายด่วน) ซึ่งยังเป็นปัจจัยหลักที่ส่งผลกระทบทำให้ปริมาณการส่งออกกุ้งของไทยลดลงในช่วงครึ่งแรกของปี 2556 นอกจากนี้รัฐบาลไทยยังได้มีความพยายามในการแก้ไขปัญหาแรงงานเด็ก แรงงานบังคับ และการค้ามนุษย์ อย่างจริงจังและต่อเนื่อง ทำให้ยังไม่เกิดผลกระทบด้านลบต่อการส่งออกกุ้งไทยไปยังสหรัฐอเมริกามากนัก
นางปราณี กล่าวว่า หากพิจารณาการนำเข้ากุ้งของสหรัฐฯ จะพบว่ามีการนำเข้ากุ้งจากอินโดนีเซีย เอกวาดอร์ และอินเดีย เพิ่มขึ้น ซึ่งส่วนหนึ่งเป็นผลมาจากการที่ไทย จีน เวียดนาม และมาเลเซียประสบปัญหาโรค EMS จนมีผลผลิตลดลง นอกจากนี้ อินโดนีเซียยังเป็นประเทศคู่แข่งที่มีศักยภาพในการเพิ่มส่วนแบ่งตลาดในสหรัฐอเมริกา สำหรับอินเดีย ซึ่งมีส่วนแบ่งในตลาดสหรัฐอเมริกาเพิ่มขึ้นอย่างมากในปี 2555 จะยังคงมีแนวโน้มส่วนแบ่งตลาดเพิ่มขึ้น เนื่องจากอินเดียยังคงขายกุ้งในราคาต่ำ ทำให้ผู้นำเข้ามีทางเลือกในการซื้อกุ้งราคาถูกเมื่อเปรียบเทียบกับการนำเข้า จากประเทศอื่น
นอกจากนี้ กระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯ ได้ประเมินประเทศอินเดียและอินโดนีเซียให้อยู่ในระดับ Tier 2 ในรายงาน TIP Report ประจำปี 2556 ในขณะที่ประเทศไทยถูกจัดอันดับอยู่ใน Tier 2 Watch List เป็นปีที่ 4 ติดต่อกัน ทั้งนี้ อาจส่งผลให้ผู้บริโภคในสหรัฐฯ ที่มีความกังวลเกี่ยวกับการค้ามนุษย์หันไปบริโภคสินค้าที่นำเข้าจากประเทศอินเดียและอินโดนีเซียได้
ปัจจุบันไทยมีการส่งออกสินค้ากุ้งและผลิตภัณฑ์เฉลี่ยปีละ 425,000 ตัน มูลค่า 150,000 ล้านบาท โดยส่งออกไปสหรัฐอเมริกา เฉลี่ยปีละ 177,000 ตัน มูลค่า 50,000 ล้านบาท คิดเป็นร้อยละ 39.87 ของการส่งออกทั้งหมด