เงินบาทเปิดตลาด 31.33/35 แนวโน้มอ่อนค่าตามภูมิภาคจากเงินทุนไหลออก

ข่าวเศรษฐกิจ Wednesday September 25, 2013 09:11 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นักบริหารเงิน เปิดเผยว่า เงินบาทเปิดตลาดเช้านี้อยู่ที่ระดับ 31.33/35 บาท/ดอลลาร์ จากเย็นวานนี้ที่ระดับ 31.30/32 บาท/ดอลลาร์ เคลื่อนไหวในทิศทางเดียวกับค่าเงินในภูมิภาค โดยเช้านี้เงินบาทไปทำไฮสุดในรอบเดือนที่ระดับ 31.46 บาท/ดอลลาร์
"ช่วงนี้ตลาดค่อนข้างบาง ระหว่างวันขยับตัวเร็วและกว้างมาก" นักบริหารเงิน กล่าว

ทิศทางค่าเงินในเอเซียยังมีแนวโน้มอ่อนค่าต่อเนื่องจากการไหลออกของเงินทุนจากต่างประเทศกลับไปยังสหรัฐ และสหภาพยุโรป และยังคงจับตาดูมาตรการ QE ที่ยังไม่มีความชัดเจน

นักบริหารเงินประเมินกรอบการเคลื่อนไหวของเงินบาทในวันนี้ไว้ระหว่าง 31.30-31.50 บาท/ดอลลาร์

  • ปัจจัยสำคัญ
  • เงินเยนอยู่ที่ระดับ 98.64/66 เยน/ดอลลาร์ จากเย็นวานนี้ที่ระดับ 98.77/78 เยน/ดอลลาร์
  • เงินยูโรอยู่ที่ระดับ 1.3479/3481 ดอลลาร์/ยูโร จากเย็นวานนี้ที่ระดับ 1.3486/3488 ดอลลาร์/ยูโร
  • อัตราแลกเปลี่ยนบาท/ดอลลาร์ ถัวเฉลี่ยถ่วงน้ำหนักระหว่างธนาคารของ ธปท.อยู่ที่ 31.0615 บาท/ดอลลาร์
  • บิ๊กแบงก์ไทยพาณิชย์ชี้เศรษฐกิจไทย-ค่าเงินยังผันผวน หลังเฟดคง QE เตือนผู้ประกอบการซื้อความเสี่ยง พร้อมคุมเข้มปล่อยกู้ต่อเนื่อง แต่ยังมั่นใจปล่อยกู้ได้ตามเป้า
  • สศค.เตรียมปรับประมาณการเศรษฐกิจปีนี้ใหม่ 26 กันยายนนี้ ชี้สัญญาณดี มีสิทธิโตไม่ต่ำกว่า 4% แน่นอน ลุ้นเม็ดเงินภาครัฐ 7 แสนล้านช่วยหนุน โชว์เงินคงคลังปึ้ก 5 แสนล้านรับมือภาวะเศรษฐกิจผันผวนได้ไร้ปัญหา
  • สมาคมค้าทองคำมีแนวคิดจัดตั้งศูนย์กลางตลาดซื้อขายทองคำ (Gold Exchange) เพื่อให้เป็นศูนย์กลางของนักลงทุนที่ต้องการซื้อและขายทองคำแท่ง สามารถมาซื้อขายในตลาดภายในประเทศได้ ซึ่งสาเหตุที่ทำให้ตลาดดังกล่าวยังไม่เกิดขึ้น ส่วนหนึ่งเป็นเพราะไม่มีใครเป็นเจ้าภาพที่จะทำหน้าที่ในการกำกับดูแลความเรียบร้อย โดยที่ผ่านมาสมาคมก็เคยไปหารือกับหลายหน่วยงาน แต่ไม่มีใครรับเป็นเจ้าภาพ ทั้งที่ตลาดซื้อขายทองแท่งในประเทศปัจจุบันมีมูลค่ามหาศาล บางรายเทรดกันปีละเป็นแสนล้านบาท
  • สมาคมผู้นำเข้าและส่งออกทองคำรายใหญ่ของไทย เตรียมเข้าหารือกับธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เพื่อชี้แจงและกำหนดแนวทางแก้ปัญหาการเก็งกำไรค่าเงินผ่านตลาดทองคำ เพราะผู้ประกอบการทองคำจะไม่มีการเก็งกำไรด้วยวิธีการดังกล่าว เนื่องจากได้ประกันความเสี่ยงผ่านสัญญาซื้อขายเงินตราต่างประเทศล่วงหน้าไว้ก่อนแล้ว และมีการรายงานให้ ธปท. ทราบ ซึ่งมีข้อมูลชัดเจน
  • สมาคมตราสารหนี้คาดปีนี้บริษัทจดทะเบียนออกหุ้นกู้แตะ 4 แสนล้านบาท เกินเป้าที่ 3-3.5 แสนล้านบาท ด้านสมาคมนักวิเคราะห์คงเป้าดัชนีปีนี้ 1,400-1,500 จุด มองช่วงปลายปีตลาดผันผวนน้อยลงหลังสะท้อนประเด็น QE ไปแล้ว
  • China Foreign Exchange Trading System(CFETS) รายงานว่า เงินหยวนอ่อนค่าลง 0.12% แตะที่ 6.1497 หยวนต่อดอลลาร์
  • ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดลบเมื่อคืนนี้ โดยดัชนีดาวโจนส์ และ S&P 500 ทำสถิติปิดลบติดต่อกัน 4 วันทำการ เนื่องจากความไม่แน่นอนที่ว่าธนาคารกลางสหรัฐ(เฟด) จะปรับลดขนาดมาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ(QE) หรือไม่ นอกจากนี้ตลาดยังได้รับแรงกดดันจากข้อมูลเศรษฐกิจที่ผันผวนของสหรัฐ โดยดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 15,334.59 จุด ลดลง 66.79 จุด หรือ -0.43%, ดัชนี S&P500 ปิดที่ 1,697.42 จุด ลดลง 4.42 จุด หรือ -0.26% และดัชนี Nasdaq ปิดที่ 3,768.25 จุด เพิ่มขึ้น 2.96 จุด หรือ +0.08%
  • สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส(WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดลบเมื่อคืนนี้ เนื่องจากนักลงทุนคลายความวิตกกังวลเกี่ยวกับภาวะอุปทานในตะวันออกกลาง หลังจากอิหร่านและสหรัฐมีท่าทีที่ยืดหยุ่นในประเด็นอาวุธนิวเคลียร์ โดยสัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือน ต.ค.ลดลง 46 เซนต์ ปิดที่ 103.13 ดอลลาร์/บาร์เรล ส่วนสัญญาน้ำมันดิบเบรนท์(BRENT) ส่งมอบเดือน พ.ย.เพิ่มขึ้น 48 เซนต์ ปิดที่ 108.64 ดอลลาร์/บาร์เรล
  • สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดร่วงลงเมื่อคืนนี้ ทำสถิติปิดลบติดต่อกัน 3 วันทำการ เนื่องจากความไม่แน่นอนที่ว่าธนาคารกลางสหรัฐ(เฟด) จะปรับลดขนาดมาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ(QE) หรือไม่ โดยสัญญาทองคำตลาด COMEX(Commodity Exchange) ส่งมอบเดือน ธ.ค.ร่วงลง 10.7 ดอลลาร์ หรือ 0.81% ปิดที่ 1,316.3 ดอลลาร์/ออนซ์ ส่วนสัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือน ธ.ค.ลดลง 27.1 เซนต์ หรือ 1.24% ปิดที่ 21.586 ดอลลาร์/ออนซ์ ขณะที่สัญญาพลาตินัมส่งมอบเดือน ต.ค.ลดลง 7.10 ดอลลาร์ ปิดที่ 1418.80 ดอลลาร์/ออนซ์ และสัญญาพัลลาเดียมส่งมอบเดือน ธ.ค.เพิ่มขึ้น 2.05 ดอลลาร์ ปิดที่ 720.00 ดอลลาร์/ออนซ์
  • สกุลเงินดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักๆ ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กเมื่อคืนนี้ ขณะที่นักลงทุนจับตาดูว่าธนาคารกลางสหรัฐ(เฟด) จะลดขนาดมาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ(QE) โดยดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับฟรังค์สวิสที่ระดับ 0.9124 ฟรังค์ จากระดับของวันจันทร์ที่ 0.9109 ฟรังค์ แต่อ่อนค่าลงเล็กน้อยเมื่อเทียบกับเงินเยนที่ระดับ 98.90 เยน จากระดับ 98.84 เยน ส่วนยูโรอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐที่ระดับ 1.3477 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 1.3496 ดอลลาร์สหรัฐ เงินปอนด์อ่อนค่าลงสู่ระดับ 1.6006 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 1.6048 ดอลลาร์สหรัฐ ดอลลาร์ออสเตรเลียอ่อนค่าลงแตะระดับ 0.9394 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 0.9445 ดอลลาร์สหรัฐ
  • ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดเปลี่ยนแปลงเพียงเล็กน้อยเมื่อคืนนี้ หลังจากดัชนี FTSE 100 ร่วงลงไปแตะระดับต่ำสุดในรอบ 2 สัปดาห์ ขณะที่นักลงทุนจับตาข้อมูลเศรษฐกิจที่สำคัญของสหรัฐเพื่อประเมินจังหวะการฟื้นตัวของเศรษฐกิจประเทศ ซึ่งมีขนาดใหญ่ที่สุดในโลก โดยสหรัฐมีกำหนดจะเปิดเผยข้อมูลหลังจากที่ตลาดหุ้นลอนดอนปิดทำการไปแล้ว โดยดัชนี FTSE 100 ปิดที่ 6,571.46 จุด เพิ่มขึ้น 14.09 จุด หรือ +0.21%
  • ตลาดหุ้นยุโรปปิดบวกเมื่อคืนนี้เพราะได้แรงหนุนจากการพุ่งขึ้นของหุ้นสื่อสารโทรคมนาคม นอกจากนี้ตลาดยังได้รับแรงหนุนจากดัชนีความเชื่อมั่นภาคธุรกิจของเยอรมนีที่ปรับตัวสูงขึ้นด้วย โดยดัชนี Stoxx Europe 600 ขยับขึ้น 0.2% ปิดที่ 313.2 จุด, ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 4,195.61 จุด เพิ่มขึ้น 23.53 จุด หรือ +0.56%, ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมันปิดที่ 8,664.60 จุด เพิ่มขึ้น 29.31 จุด หรือ +0.34%, ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 6,571.46 จุด เพิ่มขึ้น 14.09 จุด หรือ+0.21%

แท็ก เงินบาท  

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ