ดัชนีเชื่อมั่นราคาทองต.ค.ทรุด ปัจจัยเสี่ยงเพียบ ผู้ค้าแนะลงทุนระยะสั้น

ข่าวเศรษฐกิจ Monday October 7, 2013 11:26 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายกมลธัญ พรไพศาลวิจิต ผู้อำนวยการ ศูนย์วิจัยทองคำ เปิดเผยดัชนีความเชื่อมั่นราคาทองคำ (Gold Price Sentiment Index)ในเดือนต.ค.6 ชะลอตัวลงต่ำกว่าระดับ 50 จุด อยู่ที่ระดับ 46.71 จุด โดยลดลงจากเดือน ก.ย.56 ราว 17.28 จุด หรือ 27% สะท้อนทัศนคติเชิงลบของกลุ่มตัวอย่างที่มีต่อราคาทองคำในประเทศ ซึ่งแยกตามประเภทกลุ่มตัวอย่างพบว่ากลุ่มผู้ค้าทองคำมีค่าดัชนีสูงกว่า 50 จุดเล็กน้อยที่ระดับ 50.83 จุด หมายถึงยังมองเชิงบวกเล็กน้อยแต่กลุ่มผู้ลงทุนกลับมองเชิงลบ

ทั้งนี้ ปัจจัยที่กลุ่มตัวอย่างเชื่อว่าจะกระทบต่อราคาทองคำระหว่างเดือน 55.18% ได้แก่ เรื่องความผันผวนของค่าเงินบาท 48.01% ประเด็นการชะลอ QE และ 42.23% คือสำหรับประเด็นปัญหาเพดานหนี้สหรัฐฯ

ขณะเดียวกัน ดัชนีความเชื่อมั่นราคาทองคำในระยะ 3 เดือนสอดคล้องกันที่สะท้อนทัศนคติเชิงลบ โดยค่าดัชนีอยู่ที่ระดับ 48.26 จุด ลดลงจากการจัดทำในเดือนกันยายน 18.82 จุด หรือ 28.06% สำหรับคำถามว่านักลงทุนจะซื้อทองคำในช่วงหนึ่งเดือนข้างหน้าหรือไม่ พบว่ากลุ่มตัวอย่าง 36.33% จะซื้อทองคำในช่วงหนึ่งเดือนข้างหน้า กลุ่มตัวอย่าง 40.32% คิดว่าจะยังไม่ซื้อทองคำและ 23.35% ยังไม่แน่ใจว่าจะซื้อหรือไม่ ซึ่งลักษณะพฤติกรรมสอดคล้องกับค่าดัชนีที่มีมุมมองเชิงลบทำให้มีน้ำหนักของกลุ่มที่เชื่อว่าจะยังไม่ซื้อทองคำในช่วงหนึ่งเดือนในสัดส่วนที่มากกว่ากลุ่มที่คิดว่าจะซื้อ

ด้านนายภูษิต วงศ์หล่อสายชล ผู้อำนวยการศูนย์วิจัย เปิดเผยบทสรุปความคิดเห็นผู้ค้าทองคำ (Gold Trader Consensus) ที่รวบรวมตัวอย่างจากผู้ค้าส่งทองคำรายใหญ่ และผู้ประกอบกิจการนายหน้าการซื้อขายสัญญาซื้อขายล่วงหน้าที่อ้างอิงกับราคาทองคำ จำนวน 11 ตัวอย่าง เชื่อว่า ราคาทองคำในตลาดโลกช่วงเดือนตุลาคมโดยรวมน่าจะเคลื่อนไหวในกรอบ 1,200-1,440 ดอลลาร์สหรัฐ/ออนซ์ โดยกลุ่มตัวอย่างเชื่อว่ากรอบราคาต่ำสุดในเดือนตุลาคมน่าจะอยู่ในช่วง 1,260-1,280 ดอลลาร์สหรัฐ/ออนซ์ ขณะที่กรอบสูงสุดน่าจะอยู่ในกรอบ 1,380-1,400 ดอลลาร์สหรัฐ/ออนซ์

ส่วนราคาทองคำแท่งในประเทศ (ความบริสุทธิ์ 96.5%) กลุ่มตัวอย่างเชื่อว่าราคาจะเคลื่อนไหวระหว่าง 18,200-20,900 บาทต่อหนึ่งบาททองคำ และกรอบการเคลื่อนไหวต่ำสุดกลุ่มตัวอย่างให้น้ำหนักระหว่าง 18,800-19,000 บาทต่อหนึ่งบาททองคำ และมีกรอบการเคลื่อนไหวสูงสุดบริเวณ 20,600-20,900 บาทต่อหนึ่งบาททองคำ โดยมีประเด็นเรื่องเพดานหนี้สหรัฐฯเป็นประเด็นสำคัญที่อาจจะกำหนดทิศทางของราคาทองคำในช่วงท้ายของปี นอกจากนี้ยังเชื่อว่าทิศทางของค่าเงินบาทน่าจะยังผันผวนในช่วงไตรมาส 4 ต่อเนื่องจึงเป็นอีกหนึ่งปัจจัยที่นักลงทุนต้องให้ความสำคัญ

สำหรับการพิจารณาผลกระทบของสถานการณ์ Government Shutdown หรือการปิดทำการชั่วคราวของหน่วยงานรัฐของประเทศสหรัฐอเมริกาเกิดเหตุการดังกล่าวในช่วงปี ค.ศ. 1976-1996 จำนวน 17 ครั้งพบว่าโดยทั่วไปไม่มีความสัมพันธ์ต่อราคาทองคำไปในทิศทางใดทั้งในช่วงของการปิดทำการ หลังจากเปิดทำการในช่วงสัปดาห์แรก และหลังจากเปิดทำการในช่วง 1 เดือนแรก

แต่ที่น่าสังเกตุคือในกรณีที่มีการปิดหน่วยงานรัฐเป็นเวลานานกว่า 2 สัปดาห์ขึ้นไปพบว่าราคาทองคำมักจะมีการปรับตัวเพิ่มขึ้นทั้งในช่วงของการปิดทำการ หลังจากเปิดทำการในช่วงสัปดาห์แรก นอกจากนี้ยังพบว่าในช่วงของการหาข้อตกลงไม่ว่าสภาล่าง (house) และสภาสูง (senate) จะเป็นพรรคเดียวกันหรือไม่ ไม่มีผลต่อระยะเวลาของการปิดทำการและไม่กระทบต่อราคาทองคำเช่นกัน


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ