CPF หนุนเกษตรกรใช้ระบบคอนแทรคฟาร์มมิ่ง ชูสร้างอาชีพ-รายได้แน่นอน

ข่าวเศรษฐกิจ Wednesday October 9, 2013 14:56 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายณรงค์ เจียมใจบรรจง รองกรรมการผู้จัดการอาวุโส สายธุรกิจครบวงจรภูมิภาค บมจ. เจริญโภคภัณฑ์อาหาร (CPF) เปิดเผยว่า บริษัทนำระบบบริหารจัดการเกษตร ที่เรียกว่าคอนแทรคฟาร์มมิ่ง มาดำเนินการภายใต้โครงการส่งเสริมอาชีพการเลี้ยงสัตว์แก่เกษตรกรรายย่อย มากว่า 38 ปี นับตั้งแต่ปี 2518 ปัจจุบันมีเกษตรกรที่ประสบความสำเร็จในอาชีพและมีรายได้ที่มั่นคงยั่งยืนราว 5,000 รายทั่วประเทศ ครอบคลุมการเลี้ยงสัตว์ทั้งไก่กระทง ไก่ไข่ สุกรพันธุ์ และสุกรขุน หรือ คิดเป็น 99% ของเกษตรกรทั้งหมด

บริษัทมีแนวคิดในการส่งเสริมให้เกษตรกรสามารถสร้างอาชีพเลี้ยงสัตว์ที่เหมาะสมกับตนเอง พร้อมสนับสนุนให้เกิดการพัฒนาอาชีพอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะการนำเทคโนโลยีและนวัตกรรมมาใช้ในการเลี้ยงสัตว์ ที่ผ่านมาบริษัทมีการถ่ายทอดเทคโนโลยีที่เหมาะสมแก่เกษตรกร และนวัตกรรมใหม่ๆบางอย่างก็เกิดจากแนวคิดของเกษตรกรเอง โดยมีการขยายผลนำไปเผยแพร่สู่เกษตรกรรายอื่นๆทั่วประเทศ เกษตรกรจึงถือเป็นส่วนหนึ่งของห่วงโซ่การผลิตคุณภาพ เป็นส่วนสำคัญของซัพพลายเชนในการผลิตอาหารปลอดภัยเพื่อผู้บริโภค

“หัวใจของระบบคอนแทร็คฟาร์มมิ่งคือการทำธุรกิจ ที่เกษตรกรมีตลาดรองรับผลผลิตที่แน่นอน ภายใต้การผลิตที่ได้มาซึ่งมาตรฐานอาหารปลอดภัย อันเป็นระบบมาตรฐานที่บริษัทจำเป็นต้องกำหนดให้เกษตรกรร่วมปฏิบัติ เพื่อลดความเสี่ยงด้านการผลิต และความปลอดภัยในอาหาร เพื่อประโยชน์โดยตรงของผู้บริโภค ซึ่งจะส่งผลให้เกษตรกรมีรายได้ที่แน่นอน และอาชีพที่มั่นคง รวมทั้งคุณภาพชีวิตที่ดีอย่างยั่งยืน" นายณรงค์กล่าวและว่า

นายณรงค์ กล่าวว่า เกษตรกรในโครงการของซีพีเอฟในปัจจุบัน มีหลายรายที่เป็นเกษตรกรรุ่นบุกเบิกและยังคงดำเนินธุรกิจนี้ร่วมกับบริษัท และมีเกือบ 50% ที่ร่วมงานมานาน 10-25 ปี แต่ละรายประกอบกิจการไปได้ด้วยดี อย่างไรก็ตาม ต้องยอมรับว่ามีบางรายที่ไม่ประสบความสำเร็จด้วยปัจจัยแวดล้อมต่างๆ แต่ก็เพียงไม่ถึงครึ่งเปอร์เซ็นต์ของเกษตรกรที่ซีพีเอฟดูแล

ด้านนายประทีป เผือกฟัก ประธานเครือข่ายลูกค้า ธกส. อ.ครบุรี จ.นครราชสีมา เจ้าของฟาร์มเลี้ยงสุกร “ป่ามะพร้าวฟาร์ม" เปิดเผยว่า การเข้าร่วมเป็นเกษตรกรในโครงการคอนแทรคฟาร์มมิ่งของ ซีพีเอฟ ตั้งแต่ปี 2536 หรือกว่า 20 ปีที่แล้ว ถือเป็นการตัดสินใจที่ถูกต้อง เพราะสามารถช่วยสร้างอาชีพสร้างรายได้ที่ยั่งยืนแก่เกษตรกรได้อย่างเป็นรูปธรรม โดยตนเริ่มต้นเลี้ยงสุกรแม่พันธุ์ 80 ตัว กระทั่งปัจจุบันสามารถขยายการผลิตเพิ่มเป็น 250 ตัว สร้างรายได้เฉลี่ยต่อเดือนประมาณ 8 หมื่นบาท

ทั้งนี้ ตนได้เข้าร่วมโครงการส่งเสริมอาชีพการเลี้ยงสุกรพันธุ์ แบบประกันรายได้ โดยได้ศึกษาแนวทางการทำงานร่วมกับบริษัทอย่างละเอียด และพบว่าโครงการนี้มีจุดเด่นที่เป็นระบบการแบ่งงานกันทำ ภายใต้การทำสัญญาข้อตกลงระหว่างบริษัทกับเกษตรกรอย่างเป็นธรรม มีการกำหนดรูปแบบการเลี้ยง การจัดการ การให้ผลตอบแทนการผลิตไว้อย่างดี ทำให้เกษตรกรรู้ถึงหน้าที่ของตนเอง มีแนวทางการประกอบอาชีพที่ชัดเจน ตลอดจนรู้ว่าจะพัฒนาตนเองและเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตให้ดี เพื่อให้มีรายได้ที่มั่นคงแน่นอนได้อย่างไร ขณะเดียวกันไม่มีความเสี่ยงว่าผลิตสุกรออกมาแล้วจะขายไม่ได้ราคา


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ