นักบริหารเงิน กล่าวว่า เงินบาทปิดตลาดวันนี้ที่ระดับ 31.26/28 บาท/ดอลลาร์ จากตอนเช้าที่เปิดตลาดที่ระดับ 31.27/28 บาท/ดอลลาร์ ระหว่างวันเคลื่อนไหวระหว่าง 31.27-31.32 บาท/ดอลลาร์
"ระหว่างวันเงินบาทขึ้นลงตาม Flow เพราะไม่ค่อยมีประเด็นอะไรซึ่งมองว่าระหว่างนี้เงินบาทยังมีแนวโน้มจะขยับตามทิศทางของดอลลาร์ และเงิน Flow ที่ไหลเข้ามาซื้อหุ้น ซึ่งทำให้เงินบาทแข็งขึ้น"นักบริหารเงิน กล่าว
อย่างไรก็ตาม ต้องรอดูผลการประชุมธนาคารกลางยุโรป (ECB) ในวันพฤหัสบดีนี้ และตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรเดือนต.ค.
นักบริหารเงิน คาดว่า ทิศทางค่าเงินบาทวันพรุ่งนี้จะเคลื่อนไหวอยู่ในกรอบ 31.20-31.30 บาท/ดอลลาร์
*ปัจจัยสำคัญ
- เงินเยนอยู่ที่ระดับ 98.56 เยน/ดอลลาร์ จากตอนเช้าที่อยู่ที่ระดับ 98.50 เยน/ดอลลาร์
- ส่วนเงินยูโร อยู่ที่ระดับ 1.3510 ดอลลาร์/ยูโร จากตอนเช้าที่อยู่ที่ระดับ 1.3470 ดอลลาร์/ยูโร
- ดัชนี SET ปิดวันนี้ที่ระดับ 1,434.97 จุด เพิ่มขึ้น 19.53 จุด, +1.38% มูลค่าการซื้อขาย 43,539.29 ล้านบาท
- สรุปปริมาณการซื้อขายรายกลุ่ม ต่างชาติขายสุทธิ 1,939.95 ลบ.(SET+MAI)
- นักวิเคราะห์ฯเผยตลาดหุ้นไทยวันนี้ฟื้นตัวต่อจากวานนี้ รับผลจากการเมืองคลายตัวลง หลังมีสัญญาณบอกว่าร่างพ.ร.บ.นิรโทษกรรมอาจไม่ผ่านในชั้นของวุฒิสภา ทำให้มีแรงซื้อกลับเข้ามา และทิศทางจากนี้ตลาดฯคงแกว่งแคบลงทั้งในแดนบวก-ลบ แม้คนมองข่าวที่วุฒิสมาชิกบอกมาจะเป็นปัจจัยบวก แต่ก็ยังไม่ได้เกิดขึ้น คงจะต้องรอดู 11 พ.ย.นี้ก่อน ด้านตลาดภูมิภาคก็ทรงตัว ปัจจัยนอกประเทศไม่ได้มีอะไรใหม่ พรุ่งนี้ตลาดฯมีโอกาสอ่อนตัวลง แต่คงจะไม่ผันผวนมากเหมือน 3 วันที่ผ่านมา พร้อมให้กรอบการแกว่งไว้ที่ 1,448-1,420 จุด
- บริษัท ข้อมูลเครดิตแห่งชาติ(เครดิตบูโร) กล่าวว่า ปัญหนี้ภาคครัวเรือน ขณะนี้ยังไม่พบสัญญาณผิดปกติ เนื่องจากสถาบันการเงินมีความเข้มงวดมากขึ้นโดยมีการพิจารณารายได้ของผู้กู้เป็นหลัก ส่วนลูกค้าจะพิจารณาจากความสามารถในการชำระหนี้ โดยปัจจุบันบัญชีสินเชื่อ บ้าน รถยนต์ และบัตรเครดิตมีการค้างชำระเกิน 3 เดือนขึ้นที่เป็นหนี้สงสัยจะสูญ (NPL) อยู่ที่ประมาณ 3% ของสินเชื่อทั้งระบบ จึงมองว่าเป็นภาวะที่ยังไม่น่าเป็นห่วงเมื่อเทียบกับในช่วงปีที่ผ่านมา
สำหรับปัจจุบันบัญชีบัตรเครดิตมีอยู่ 15 ล้านบัญชี เป็น NPL 4 แสนบัญชี สินเชื่อบุคคล 13 ล้านบัญชี เป็น NPL 8 แสนบัญชี ขณะที่สินเชื่อบ้าน และรถยนต์ มีสัญญาณลดลงหลังสิ้นสุดนโบายรถยนต์คันแรกของรัฐบาล
ส่วนปัญหาการเมืองในประเทศที่เกิดขึ้นขณะนี้ อาจส่งผลกระทบกับเศรษฐกิจไตรมาส 4 ที่ต้องพึ่งพาการท่องเที่ยวเป็นหลัก ประกอบกับการส่งออกปีนี้ที่คาดว่าจะโตไม่ถึง 2% จะทำให้การเติบโตของเศรษฐกิจไทยปีนี้อยู่ที่ 3.8-4%
- สมาคมแลกเปลี่ยนทองคำและเงินของจีน เปิดเผยว่า ราคาทองคำที่ตลาดฮ่องกงเพิ่มขึ้น 12 ดอลลาร์ฮ่องกง ปิดที่ระดับ 12,212 ดอลลาร์ฮ่องกง/ตำลึง เทียบเท่ากับ 1,322.71 ดอลลาร์สหรัฐ/ทรอยออนซ์ เพิ่มขึ้น 1.3 ดอลลาร์สหรัฐ ที่อัตราแลกเปลี่ยน 1 ดอลลาร์สหรัฐ/7.75 ดอลลาร์ฮ่องกงในวันนี้