สำหรับสินเชื่ออุปโภคบริโภค (สัดส่วนร้อยละ 30.4 ของสินเชื่อรวม) ขยายตัวร้อยละ 15.7 ชะลอลงในสินเชื่อทุกประเภท โดยเฉพาะสินเชื่อรถยนต์ที่การส่งมอบรถยนต์ภายใต้โครงการรถคันแรกใกล้หมดแล้ว เงินฝากขยายตัวร้อยละ 9.3 ต่ำกว่าการขยายตัวของสินเชื่อ ส่งผลให้สัดส่วนสินเชื่อต่อเงินฝาก B/E และเงินกู้ยืมเพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่องเป็นร้อยละ 90.1
คุณภาพสินเชื่ออยู่ในเกณฑ์ดี สินเชื่อที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (Non-Performing Loan : NPL) และสินเชื่อจัดชั้นกล่าวถึงเป็นพิเศษ (Special Mention Loan : SM) มียอดคงค้างเพิ่มขึ้นเล็กน้อยจากไตรมาสก่อน ขณะที่สัดส่วนไม่เปลี่ยนแปลง โดย NPL มียอดคงค้าง 266.3 พันล้านบาท สัดส่วน Gross NPL และ Net NPL ต่อสินเชื่อรวมยังคงทรงตัวที่ร้อยละ 2.2 และร้อยละ 1.0 ตามลำดับ สำหรับ SM มียอดคงค้าง 269.1 พันล้านบาท และสัดส่วนต่อสินเชื่อรวมทรงตัวที่ร้อยละ 2.2
อย่างไรก็ตาม ธนาคารพาณิชย์มี ความระมัดระวังต่อความผันผวนของเศรษฐกิจในระยะต่อไปจึงกันเงินสำรองเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง สัดส่วนเงินสำรองที่มีต่อเงินสำรองพึงกันจึงเพิ่มขึ้นเป็นร้อยละ 167.4 ณ สิ้นไตรมาส 3 ปี 2556 ระบบธนาคารพาณิชย์มีกำไรสุทธิ 54.4 พันล้านบาท ลดลงจากไตรมาสก่อนที่มีรายการพิเศษจากผลกำไรจากการขายบริษัทย่อยของธนาคารพาณิชย์แห่งหนึ่ง หากไม่รวมผลดังกล่าว ระบบธนาคารพาณิชย์มีกำไรสุทธิเพิ่มขึ้น 6.1 พันล้านบาท หรือร้อยละ 12.6 จากความจำเป็นในการกันสำรองที่ลดลง หลังจากทยอยเพิ่มขึ้นในไตรมาสก่อนหน้าจนเพียงพอแล้ว อัตราผลตอบแทนต่อสินทรัพย์เฉลี่ย (Return on Asset : ROA) เพิ่มขึ้นเป็นร้อยละ 1.4
ทั้งนี้ จากการที่ธนาคารพาณิชย์ได้มุ่งเน้นการขยายสินเชื่อในกลุ่มลูกค้า SME และอุปโภคบริโภคมากขึ้นในระยะที่ผ่านมา ส่งผลให้อัตราส่วนรายได้ดอกเบี้ยสุทธิต่อสินทรัพย์เฉลี่ย (Net Interest Margin : NIM) เพิ่มขึ้นเป็นร้อยละ 2.58 ระบบธนาคารพาณิชย์มีเงินกองทุนอยู่ในระดับสูงและเพิ่มขึ้นจากผลกำไรที่มีอย่างต่อเนื่อง ส่งผลให้อัตราส่วนเงินกองทุนทั้งสิ้นและอัตราส่วนเงินกองทุนชั้นที่ 1 ต่อสินทรัพย์เสี่ยงเพิ่มขึ้นเป็นร้อยละ 16.5 และร้อยละ 13.1 ตามลำดับ
"ระบบธนาคารพาณิชย์มีเสถียรภาพ สินเชื่อขยายตัวในอัตราชะลอลง คุณภาพสินเชื่ออยู่ในเกณฑ์ดี ผลการดำเนินงานดี ฐานะเงินกองทุนอยู่ในระดับสูงและเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง"