ผู้ว่าฯ ธปท.ห่วงการเมืองกด GDP ปีนี้โตต่ำกว่า 3% วอนเลี่ยงรุนแรง-ร่วมหาทางออก

ข่าวเศรษฐกิจ Monday December 2, 2013 11:48 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายประสาร ไตรรัตน์วรกุล ผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) กล่าวว่า สถานการณ์การชุมนุมทางการเมืองขณะนี้ส่งผลกระทบทางด้านการอุปโภคและบริโภค การลงทุนและการท่องเที่ยวในประเทศ ซึ่งเห็นว่าทั้งสองฝ่ายควรหาทางออกร่วมกันในรูปแบบใดรูปแบบหนึ่ง และควรหลีกเลี่ยงการใช้ความรุนแรง เพื่อป้องกันไม่ให้ประชาชนได้รับผลกระทบ
"มองว่าขณะนี้ทุกฝ่ายได้พยายามหลีกเลี่ยงการใช้ความรุนแรงในรูปแบบต่างๆ ซึ่งเห็นว่าแม้มีความคิดเห็นแตกต่างกันและควรมีการเจรจาร่วมกันเพื่อหาข้อยุติในรูปแบบใดรูปแบบหนึ่ง ไม่ว่าทางตรงหรือทางอ้อม ซึ่งที่ผ่านมามีหลายสถาบันออกมาแสดงความคิดเห็นตัวว่าจะเป็นคนกลาง ที่จะช่วยประสานคลี่คลายปัญหาที่เกิดขึ้น เห็นว่าควรให้ทุกฝ่ายหลีกเลี่ยงการใช้ความรุนแรง เพื่อป้องกันไม่ให้ประชาชนได้รับผลกระทบ ซึ่งข้อเสนอของทุกฝ่ายเป็นข้อเสนอที่ดี มองว่าท้ายที่สุดแล้วทุกฝ่ายไม่ได้ต้องการอยากได้ข้อเสนอของตัวเองครบทุกสิ่ง"นายประสาร กล่าว

สำหรับคาดการณ์อัตราการขยายตัวทางเศรษฐกิจ(GDP)ในปีนี้อาจจะเติบโตต่ำกว่า 3% หากได้รับผลกระทบจากสถานการณ์ทางการเมือง แต่ตัวเลขประมาณการดังกล่าวยังไม่ได้รวมยอดตัวเลขของไตรมาส 4/56 และยังหวังว่าการท่องเที่ยวจะเข้ามาช่วยหนุน GDP ให้เติบโตได้ แม้ว่าภาคการท่องเที่ยวอาจจะมีการเติบโตไม่มากเท่าที่คาดการณ์ไว้

ส่วนด้านสินเชื่อที่ทั้งปี 56 คาดว่าจะขยายตัวชะลอลงมาที่ 9% จากไตรมาส 3/56 อยู่ที่ 12% แต่หากเปรียบเทียบกับภาพรวมการเติบโตทางเศรษฐกิจก็ถือว่ายังอยู่ในระดับปกติ และคาดว่าปีหน้า GDP จะเติบโต 4% ซึ่งหากบวกกับเงินเฟ้อ 2% จะทำให้สินเชื่อในปีหน้าเติบโตได้ราว 6-7% ถือว่ามีความสมเหตุสมผล

"ไม่รู้สึกกังวลหากสถานการณ์การเมืองยังคงรุนแรงต่อเนื่องไปถึงปี 57 ว่าจะส่งผลกระทบต่อการเคลื่อนย้ายเงินทุน ซึ่งการไหลเข้า-ออกของเงินยังมีความสมดุลอยู่และระบบที่วางแผนไว้ยังมีความยึดหยุ่นที่จะรองรับเงินทุนเคลื่อนย้ายได้ รวมถึงเงินทุนสำรองยังอยู่ในระดับที่รองรับความต้องการของผู้ลงทุนต่างประเทศ ในระดับที่มั่นคง"ผู้ว่าฯ ธปท. กล่าว

นายประสาร กล่าวว่า ภายในสัปดาห์นี้ ธปท.จะเริ่มใช้ระบบวีดีโอคอนเฟอร์เรนซ์เพื่อประชุมหารือกับผู้บริหารระดับสูงของธนาคารพาณิชย์เกี่ยวกับสถานการณ์การชุมนุมที่เกิดขึ้น ซึ่งในกรณีที่อาจจะต้องปิดสาขาธนาคารพาณิชย์บางแห่งที่ได้รับผลกระทบนั้น ปัจจุบัน ธปท.มีกฎเกณฑ์ค่อนข้างยืดหยุ่น ผู้บริหารธนาคารพาณิชย์สามารถสั่งเปิดและปิดสาขาได้ตามความเหมาะสม แต่ที่ผ่านมาผู้ใช้บริการก็ยังไม่ได้รับผลกระทบมากนัก เนื่องจากทุกธนาคารมีการกระจายการบริการครอบคลุมทุกพื้นที่

ขระที่ตลาดเงินปีหน้ายังคงต้องติดตามความผันผวนของตลาดเงินที่ยังมีความไม่แน่นอนอยู่ ทิศทางเศรษฐกิจปี 57 ปัจจัยบวกยังมองเรื่องการฟื้นตัวต่อเนื่องของเศรษฐกิจโลก เพราะจะส่งผลดีต่อภาคส่งออกของไทยมากขึ้น ส่วนการอุปโภคบริโภคในประเทศในปีหน้าจะปรับตัวได้ดีขึ้น ซึ่งปีนี้อยู่ในช่วงของการปรับฐาน ส่วนการลงทุนน่าจะได้รับผลดีจากแผนการลงทุนของภาครัฐและส่งผลไปยังการลงทุนของภาคเอกชน ด้านปัจจัยลบขึ้นอยู่กับการฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลกจะได้ผลกระทบจากการส่งออกเพียงใด ด้านอุปโภคบริโภคภายในประเทศหากสถานการณ์การเมืองไม่ดีขึ้นก็จะส่งผลกระทบให้เกิดการชะลอตัว


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ