เงินบาทปิด 32.02/24 กลับมาแข็งค่าจากแรงขายดอลล์-รอ FOMC สัปดาห์หน้า

ข่าวเศรษฐกิจ Friday December 13, 2013 17:37 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นักบริหารเงิน เปิดเผยว่า เงินบาทปิดตลาดเย็นนี้อยู่ที่ระดับ 32.02/24 บาท/ดอลลาร์ ที่เป็นระดับโลว์สุดของวัน ซึ่งปรับตัวแข็งค่าจากช่วงเช้าที่ระดับ 32.11/13 บาท/ดอลลาร์ ที่เป็นระดับไฮสุดของวัน ตามแรงไหลออกของเงินทุนต่างประเทศ
"เงินบาททยอยตัวแข็งค่าจากระดับ high ช่วงเปิดตลาดเรื่อยๆ จนไปทำ low ตอนปิดตลาดตามแรง flow ขายออกมา" นักบริหารเงิน กล่าว

ตลาดยังคงรอดูผลประชุมของคณะกรรมการนโยบายการเงินของธนาคารกลางสหรัฐ(FOMC) โดยกังวลว่าอาจตัดสินใจปรับลดขนาดมาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ(QE) ขณะเดียวกันก็ยังจับตาดูสถานการณ์ทางการเมืองในประเทศที่ยังมีความไม่แน่นอน แม้สถานการณืจะคลี่คลายลงจนไม่เกิดเหตุรุนแรง

นักบริหารเงิน ประเมินกรอบการเคลื่อนไหวของเงินบาทในสัปดาห์หน้าไว้ในกรอบระหว่าง 32.00-32.20 บาท/ดอลลาร์

  • ปัจจัยสำคัญ
  • เงินเยนอยู่ที่ระดับ 103.59/60 เยน/ดอลลาร์ ทรงตัวในระดับเดียวกันกับช่วงเช้า
  • เงินยูโรอยู่ที่ระดับ 1.3729/3732 ดอลลาร์/ยูโร จากช่วงเช้าที่ระดับ 1.3751/3753 ดอลลาร์/ยูโร
  • ดัชนี SET ปิดวันนี้ที่ระดับ 1,341.13 จุด ลดลง 15.08 จุด, -1.11% มูลค่าการซื้อขาย 30,247.53 ล้านบาท
  • สรุปปริมาณการซื้อขายรายกลุ่ม ต่างชาติขายสุทธิ 3,531.38 ล้านบาท(SET+MAI)
  • ธนาคารแห่งประเทศไทย(ธปท.) รายงานตัวเลขทุนสำรองเงินตราต่างประเทศของไทย วันที่ 6 ธ.ค.56 อยู่ที่ 167.5 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ จากวันที่ 29 พ.ย.56 ที่ 167.5 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ขณะที่ฐานะฟอร์เวิร์ดสุทธิของไทย วันที่ 6 ธ.ค.56 อยู่ที่ 23.8 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ เมื่อเทียบกับวันที่ 29 พ.ย.56 อยู่ที่ 23.9 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ส่วนเงินสำรองระหว่างประเทศในรูปเงินบาทวันที่ 6 ธ.ค.56 อยู่ที่ 5,413.2 พันล้านบาท จาก 5,375.7 พันล้านบาท เมื่อวันที่ 29 พ.ย.56
  • นายประสาร ไตรรัตน์วรกุล ผู้ว่าการ ธปท. กล่าวว่า สถานการณ์ที่มีเงินไหลออกในช่วงที่เกิดความขัดแย้งทางการเมืองในประเทศนั้น ที่ผ่านมานักลงทุนต่างชาติไม่ได้นำเงินออกไปมากหลังจากได้มีการปรับตัวไปบ้างแล้ว เห็นได้จากการถือครองตราสารหนี้ลดลงจาก 17% ของยอดทั้งหมด เหลือประมาณ 10% เศษ หรือแม้ว่าจะขายออกทั้งหมด แต่จากที่เข้ามาก่อนหน้านี้ก็ถือว่าไม่มากประมาณ 7-8 แสนล้านบาทหรือราว 2 หมื่นล้านเหรียญสหรัฐ ไม่ใช่เรื่องใหญ่ ที่สำคัญคือเงินสำรองของไทยยังมีมาก ซึ่ง ธปท.ยังมีเครื่องมือต่าง ๆ ดูแลตลาดเงินได้คล่องตัว ประกอบกับ ธปท.ได้เข้าไปในตลาดเพื่อดูแลบริหารจัดการบ้าง แต่อัตราแลกเปลี่ยนในช่วง 2 เดือนที่ผ่านมา ยังเคลื่อนไหวในกรอบแคบ คือว่ามีเสถียรภาพพอสมควร จึงไม่มีประเด็นที่น่าเป็นห่วง
  • นายโฆสิต ปั้นเปี่ยมรัษฎ์ ประธานกรรมการ ธนาคารกรุงเทพ กล่าวว่า เศรษฐกิจไทยในปีหน้าคาดว่าจะดีขึ้นอย่างปีนี้เล็กน้อย โดยน่าจะขยายตัวใกล้เคียงกันในระดับประมาณ 3% ซึ่งก็ต้องขึ้นกับการส่งออกว่าจะดีขึ้นตามการฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลกหรือไม่ หากไม่ได้ดีไปกว่าปีนี้ก็อาจจะทำให้ภาพรวมเศรษฐกิจไทยขยายตัวไม่ถึง 3%
  • กระทรวงเศรษฐกิจ การค้า และอุตสาหกรรมญี่ปุ่น เผยผลผลิตภาคอุตสาหกรรมของญี่ปุ่นในเดือน ต.ค.เพิ่มขึ้น 1% จากระดับเดือน ก.ย. ซึ่งถือเป็นการปรับเพิ่มตัวเลขจากตัวเลขที่ได้มีการรายงานเบื้องต้นไว้ว่าขยายตัว 0.5% โดยดัชนีผลผลิตที่โรงงานและเหมืองอยู่ที่ 99.3 จากระดับฐานที่ 100 ในปี 2553 ส่วนดัชนีการขนส่งภาคอุตสาหกรรมก็มีการปรับทบทวนขึ้นเช่นกัน โดยดัชนีการขนส่งภาคอุตสาหกรรมขยายตัว 2.3% เมื่อเทียบกับการรายงานเบื้องต้นที่ขยายตัว 1.8% ส่วนดัชนีคลังอึตสาหกรรมอ่อนตัวลง 0.3% เมื่อเทียบกับรายงานเบื้องต้นที่อ่อนตัวลง 0.5%
  • ผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลญี่ปุ่นอายุ 10 ปีปิดพุ่งแตะระดับสูงสุดในรอบ 2 เดือนครึ่ง หลังการดีดตัวขึ้นของตลาดหุ้นโตเกียวส่งผลให้มีแรงเทขายพันธบัตร โดยอัตราผลตอบแทนพันธบัตรหมายเลข 332 ซึ่งเป็นมาตรวัดดอกเบี้ยระยะยาว ปิดการซื้อขายที่ 0.685% เพิ่มขึ้น 0.030% จากระดับปิดเมื่อวานนี้ หลังจากที่ไต่ขึ้นไปแตะที่ 0.690% ในช่วงเวลาสั้นๆ ส่วนราคาสัญญาพันธบัตรอายุ 10 ปีส่งมอบเดือน มี.ค.ลดลง 0.29 จุด แตะที่ 143.85 จุด ที่ตลาดหุ้นโตเกียว
  • สมาคมแลกเปลี่ยนทองคำและเงินของจีน เผยราคาทองคำที่ตลาดฮ่องกงปรับตัวลดลง 250 ดอลลาร์ฮ่องกง ปิดที่ระดับ 11,428 ดอลลาร์ฮ่องกง/ตำลึงในวันนี้ หรือเทียบเท่ากับ 1,237.79 ดอลลาร์สหรัฐ/ทรอยออนซ์ ลดลง 27.08 ดอลลาร์สหรัฐ

แท็ก เงินบาท  

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ