นักบริหารเงิน กล่าวว่า เงินบาทเช้านี้เปิดตลาดที่ระดับ 33.01/02 บาท/ดอลลาร์ ก่อนจะขึ้นไปทำ High ที่ 33.12 บาทดอลลาร์ ล่าสุดเริ่มแข็งค่ามาอยู่แถวๆ 33.09/11 บาท/ดอลลาร์ จากประเด็นภายนอก คือ ทุกสกุลอ่อนค่าเมื่อเทียบกับดอลลาร์ ที่กลับมาแข็งค่าเทียบกับทุกสกุลยกเว้นค่าเงินเยน
นักบริหารเงิน คาดว่า เงินบาทน่าจะยังอ่อนค่าต่อเนื่อง มองกรอบการเคลื่อนไหวในกรอบระหว่าง 33.00-33.15 บาท/ดอลลาร์
ล่าสุด SPOT อยู่ที่ 33.090 บาท/ดอลลาร์ ส่วน THAI BAHT FIX 3M อยู่ที่ 1.92850% และ THAI BAHT FIX 6M อยู่ที่ 1.97254%
- ปัจจัยสำคัญ
- เงินเยนอยู่ที่ระดับ 104.25 เยน/ดอลลาร์
- ส่วนเงินยูโรอยู่ที่ระดับ 1.3584 ดอลลาร์/ยูโร
- อัตราแลกเปลี่ยนบาท/ดอลลาร์ ถัวเฉลี่ยถ่วงน้ำหนักระหว่างธนาคารของ ธปท.อยู่ที่ 33.0110 บาท/ดอลลาร์
- นักวิเคราะห์ฯคาดตลาดหุ้นไทยเช้านี้แกว่งในกรอบจำกัด และมีโอกาสผันผวน เหตุการเมืองยังกดดัน อีกทั้งเงินดอลลาร์สหรัฐฯแข็งค่าและเงินบาทก็อ่อนค่าลงมาทะลุ 33 บาท/ดอลลาร์สหรัฐฯ ทำให้มีแนวโน้มที่เงินจะไหลออกได้ ขณะเดียวกันตลาดฯยังไร้ปัจจัยหนุน พร้อมให้แนวรับ 1,200-1,210 แนวต้าน 1,260-1,265 จุด
- กองทุนฟื้นฟูฯ เผยในปี 57 ยังไม่มีแผนลดสัดส่วนการถือหุ้นใน KTB, BAM และ SAM เหตุการเมืองยังไม่นิ่ง ทำให้คลังไม่มีนโยบายอะไรเพิ่มเติม ยอมรับช่วงไร้ รมว.คลัง งานของกองทุนฟื้นฟูฯสะดุดบ้าง ขณะเดียวกันในช่วงเศรษฐกิจซบเซาปริมาณเงินสดหมุนเวียนในระบบเศรษฐกิจเพิ่มขึ้นไม่มาก
- คณะกรรมการร่วมภาคเอกชน 3 สถาบัน (กกร.) จะหารือถึงผลกระทบทางเศรษฐกิจ และประเมินสถานการณ์ของการชุมนุมทางการเมืองที่ยืดเยื้อมาถึงปี 57 รวมทั้งจะมีการหารือถึงแนวทางการรับมือการชุมนุมใหญ่ ในวันที่ 13 ม.ค. ซึ่งจะมีการปิดการจราจรหลายจุด
- ตลาดหุ้นเอเชียปรับตัวลดลงในช่วงเช้าวันนี้ โดยการนำของตลาดหุ้นญี่ปุ่นหลังเงินเยนแข็งค่าขึ้น
- ตลาดหุ้นยุโรปปิดบวกเมื่อวันศุกร์ (3 ม.ค.) เพราะได้แรงหนุนจากการที่นักลงทุนเข้าซื้อหุ้นกลุ่มค้าปลีกอย่างคึกคัก ขณะที่นักลงทุนจับตาถ้อยแถลงของนายเบน เบอร์นันเก้ ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด)
- China Foreign Exchange Trading System (CFETS) รายงานว่า เงินหยวนอ่อนค่าลง 0.20% แตะที่ 6.1059 หยวนต่อดอลลาร์เช้าวันนี้
- สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส(WTI) เดือน ก.พ.ปรับตัวขึ้น 21 เซนต์ แตะที่ 94.17 ดอลลาร์/บาร์เรล ในการซื้อขายทางระบบอิเล็กทรอนิกที่ตลาดเอเชียเมื่อเวลา 12.45 น.ตามเวลาซิดนีย์ในวันนี้ ขณะที่นักลงทุนจับตาดูดัชนีภาคบริการของสหรัฐซึ่งเป็นประเทศที่ใช้น้ำมันมากที่สุดในโลก ทั้งนี้สถาบันจัดการด้านอุปทานของสหรัฐ(ISM) จะเปิดเผยดัชนีภาคบริการเดือน ธ.ค.ของสหรัฐในวันนี้เวลา 22.00 น.ตามเวลาไทย ซึ่งนักวิเคราะห์คาดว่าดัชนี ISM ภาคบริการ ธ.ค.อาจจะเพิ่มขึ้นแตะ 54.6 จากเดือน พ.ย.ที่ระดับ 53.9 นอกจากนี้ นักลงทุนยังจับตาดูสำนักงานสารสนเทศด้านพลังงานของรัฐบาลสหรัฐ(EIA) จะเปิดเผยรายงานสต็อกน้ำมันดิบประจำสัปดาห์ในวันพุธนี้เวลา 22.30 น.ตามเวลาไทย
- ผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลญี่ปุ่นอายุ 10 ปีปิดภาคเช้าลดลง เนื่องจากหุ้นโตเกียวที่ร่วงอย่างหนักได้กระตุ้นความต้องการสินทรัพย์ที่ปลอดภัย โดยอัตราผลตอบแทนพันธบัตรหมายเลข 332 ซึ่งเป็นมาตรวัดดอกเบี้ยระยะยาว ปิดภาคเช้าที่ 0.730% ลดลง 0.010% จากระดับปิดเมื่อวันที่ 30 ธ.ค. ส่วนราคาสัญญาพันธบัตรอายุ 10 ปีส่งมอบเดือน มี.ค.เพิ่มขึ้น 0.17 จุด แตะที่ 143.49 จุดที่ตลาดหุ้นโตเกียว
- ตลาดหุ้นไทยต้นภาคเช้าวันนี้ร่วงไปแล้วกว่า 10 จุด จากสถานการณ์ทางการเมืองในประเทศยังคงกดดันการลงทุนอย่างต่อเนื่อง เช่นเดียวกับงินบาทที่อ่อนค่าลงอย่างมาก โดยเมื่อเวลา 10.03 น. ดัชนี SET มาอยู่ที่ 1,214.27 จุด ลดลง 10.35 จุด(-0.85%)