สำหรับปัจจัยที่จะมีผลต่อค่าเงินในสัปดาห์นี้ยังไม่มีอะไรใหม่ แต่สัปดาห์หน้าต้องจับตาดูสถานการณ์การเมืองในประเทศโดยเฉพาะการนัดชุมนุมปิดกรุงเทพฯ ในวันที่ 13 ม.ค.57 ของกลุ่ม กปปส.ว่าจะมีความรุนแรงหรือมีเหตุที่ยืดเยื้อหรือไม่ เพราะหากเป็นเช่นนั้นก็มีแนวโน้มว่าเงินบาทจะอ่อนค่าต่อ
นักบริหารเงิน คาดว่า พรุ่งนี้เงินบาทจะเคลื่อนไหวอยู่ในกรอบ 33.00-33.15 บาท/ดอลลาร์
- ปัจจัยสำคัญ
- ปิดตลาดเย็นนี้เงินเยนอยู่ที่ระดับ 104.95/96 เยน/ดอลลาร์ จากช่วงเช้าที่ระดับ 104.80/83 เยน/ดอลลาร์
- ส่วนเงินยูโรอยู่ที่ระดับ 1.3606/3609 ดอลลาร์/ยูโร จากช่วงเช้าที่ระดับ 1.3628/3630 ดอลลาร์/ยูโร
- ดัชนี SET ปิดวันนี้ที่ระดับ 1,257.73 ลดลง 4.63 จุด (-0.37%) โดยมีมูลค่าการซื้อขาย 36,287 ล้านบาท
- สรุปปริมาณการซื้อขายรายกลุ่ม ต่างชาติซื้อสุทธิ 3,876.61 ลบ.(SET+MAI)
- ล่าสุดเย็นนี้ ตุลาการศาลรัฐธรรมนูญมีมติเสียงข้างมากวินิจฉัยว่ากระบวนการแก้ไขรัฐธรรมนูญของ ส.ส.และส.ว.รวม 381 คน ในการลงมติแก้ไขรัฐธรรมนูญ มาตรา 190 เป็นการกระทำที่ไม่ชอบด้วยกระบวนการตามรัฐธรรมนูญ และเป็นการได้อำนาจมาซึ่งอำนาจในการปกครองประเทศโดยวิธีการที่ไม่ได้บัญญัติไว้ในรัฐธรรมนูญ
- ศูนย์วิจัยทองคำ เปิดเผยดัชนีความเชื่อมั่นราคาทองคำ เดือนม.ค.57 มีค่าดัชนีความเชื่อมั่นราคาทองคำอยู่ที่ระดับ 58.61 จุด เพิ่มขึ้น โดยมีประเด็นการอ่อนค่าของเงินบาทหลังการลดขนาดมาตรการ QE และอุปสงค์ของทองคำในช่วงต้นปีเป็นปัจจัยสำคัญ
- นายจรัมพร โชติกเสถียร กรรมการและผู้จัดการ ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) กล่าวว่า จากสถานการณ์ทางการเมืองที่จะมีการชุมนุมในวันที่ 13 ม.ค.นี้ ทางตลท.ได้เตรียมความพร้อมในหลายรูปแบบเพื่อรองรับสถานการณ์ความรุนแรงที่จะเกิดขึ้น
- นายวรพล โสคติยานุรักษ์ เลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) คาดว่าจะออกหลักเกณฑ์ในการรองรับหลักทรัพย์จากประเทศอื่นที่จะเข้ามาจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ไทยได้ในช่วงไตรมาส 1/57
- ตลาดหุ้นยุโรปเปิดตลาดวันนี้ปรับตัวสูงขึ้น โดยดัชนี Stoxx 600 ทรงตัวที่ 329.39 เมื่อเวลา 08.08 น.ตามเวลาลอนดอน ก่อนที่จะมีการเปิดเผยข้อมูลการจ้างงานของบริษัทเอกชนสหรัฐ ที่นักลงทุนอาจจะได้นำมาใช้ในการพิจารณาแนวโน้มของการดำเนินมาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณของธนาคารกลางสหรัฐ(เฟด)
- ตลาดหุ้นเอเชียฟื้นตัวขึ้นบ่ายวันนี้ โดยดัชนี MSCI Asia Pacific บวก 0.5% เมื่อเวลา 12.53 น.ตามเวลาโตเกียว ขณะที่หุ้นญี่ปุ่นพุ่งขึ้นจากเงินเยนที่อ่อนค่าลง ก่อนที่จะมีการเปิดเผยรายงานการประชุมธนาคารกลางสหรัฐ(เฟด)
- แหล่งข่าวระบุว่า ธนาคารรายใหญ่ของญี่ปุ่นอยู่ระหว่างพิจารณาการเชื่อมต่อระบบเอทีเอ็มของธนาคารเข้ากับสถาบันการเงินประมาณ 30 แห่งในเกาหลีใต้และไทย ตั้งแต่ปีงบการเงิน 2558 เป็นต้นไป นอกจากนี้ ธนาคารรายใหญ่ดังกล่าวและบริษัทเอ็นทีที ดาต้า คอร์ป ซึ่งเป็นผู้บริหารจัดการข้อมูลเอทีเอ็มให้กับธนาคารต่างๆ ของญี่ปุ่น ยังได้วางแผนที่จะขยายแผนการเชื่อมต่อระบบดังกล่าวให้ครอบคลุมถึงประเทศอื่นๆในเอเชียด้วย
- แบงก์ ออฟ คอมมูนิเคชั่นส์(BOCOM) คาดการณ์ว่า เศรษฐกิจจีนจะเติบโตขึ้นประมาณ 7.8% ในปี 57 เนื่องจากมีความหวังที่เศรษฐกิจโลกจะฟื้นตัวอย่างต่อเนื่อง และการสนับสนุนการปฏิรูปของจีน พร้อมคาดว่าการส่งออกของจีนจะเติบโตได้ 8.5% เนื่องจากอุปสงค์จากต่างชาติเพิ่มขึ้น