"เงินบาทแข็งค่าลงไปมากจากช่วงเช้า วันนี้ส่วนหนึ่งน่าจะเป็น flow จากลูกค้า มีการขายดอลลาร์กันเยอะทั้ง offshore และ onshore ตลาดคงมองว่าบาทอ่อนค่าไปเยอะแล้ว จึงอาจจะขายทำกำไรด้วย และอีกส่วนมี flow เข้ามาลงทุนในประเทศด้วย" นักบริหารเงิน ระบุ
พรุ่งนี้ยังคงต้องจับตาสถานการณ์การเมืองในประเทศต่อไป เงินบาทอาจจะยังอยู่ในระดับเดียวกับวันนี้ไปก่อน และคงต้องรอดูสักระยะว่าเงินบาทที่กลับมาแข็งค่าในวันนี้เป็นการเปลี่ยน trend เลยหรือไม่ หรือเป็นเพียงแค่การปรับฐาน
นักบริหารเงิน คาดว่า พรุ่งนี้เงินบาทจะเคลื่อนไหวอยู่ในกรอบ 32.65-32.85 บาท/ดอลลาร์
- ปัจจัยสำคัญ
- ปิดตลาดเย็นนี้ เงินเยนอยู่ที่ระดับ 103.56/60 เยน/ดอลลาร์ จากช่วงเช้าที่ระดับ 103.38/40 เยน/ดอลลาร์
- ส่วนเงินยูโร อยู่ที่ระดับ 1.3671/3674 ดอลลาร์/ยูโร จากช่วงเช้าที่ระดับ 1.360/3662 ดอลลาร์/ยูโร
- ดัชนี SET ปิดวันนี้ที่ระดับ 1,295.87 เพิ่มขึ้น 12.31 จุด (+0.96%) โดยมีมูลค่าการซื้อขาย 35,094 ล้านบาท
- สรุปปริมาณการซื้อขายรายกลุ่ม ต่างชาติขายสุทธิ 1,529.29 ลบ.(SET+MAI)
- น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ควันนี้ โดยระบุว่า ไม่ได้อยู่เพื่อรักษาเสถียรภาพทางการเมือง แต่อยู่เพื่อรักษาประชาธิปไตย เพราะประชาธิปไตยเป็นของปวงชนชาวไทยทุกคน
- ศูนย์อำนวยการรักษาความสงบเรียบร้อย(ศอ.รส.) เตือนผู้ชุมนุมร่วมกับกลุ่ม กปปส.อาจจะเข้าข่ายมีความผิดตามกฎหมายอาญาฐานร่วมกันกระทำการเป็นกบฎ และร่วมกันมั่วสุมให้เกิดความวุ่นวายในบ้านเมือง โดยขู่ว่าหากไม่ถูกจับดำเนินคดีในวันนี้ แต่อายุความในคดีนี้ยาวนานถึง 20 ปี
- สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน(บีโอไอ) เผยตัวเลขขอรับส่งเสริมการลงทุนปี 2556 เหนือความคาดหมายมีมูลค่าลงทุนทะลุ 1 ล้านล้านบาท หลังกลุ่มพลังงานแห่ยื่นขอรับส่งเสริมก่อนสิ้นปี โดยนักลงทุนญี่ปุ่นยังครองแชมป์ลงทุนสูงสุด สำหรับในปี 2557 บีโอไอเตรียมแผนชักจูงการลงทุนจากต่างประเทศ ดึง 9 อุตสาหกรรมเป้าหมาย เน้นชักจูงการลงทุนกลุ่มสร้างมูลค่าเพิ่มสูง และเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม
- กระทรวงพาณิชย์ ยังคงเป้าหมายมูลค่าการส่งออกในปีนี้ ขยายตัวไว้ที่ 5% ก่อน แม้ขณะนี้ในภาพรวมได้รับผลกระทบจากชุมนุมทางการเมือง แต่หลังจากเหตุการณ์การเมืองกลับเข้าสู่ภาวะปกติจะประเมินตัวเลขอีกครั้ง
- ตลาดหุ้นยุโรปเปิดตลาดอ่อนตัวลงในวันนี้ โดยดัชนี Stoxx Europe 600 ปรับตัวลง 0.9% แตะ 327.7 เมื่อเวลา 08.08 น.ตามเวลาลอนดอนเช่นเดียวกับตลาดหุ้นทั่วโลก ท่ามกลางความกังวลเกี่ยวกับมูลค่าของหุ้น
- ประธานธนาคารกลางยุโรป (ECB) เปิดเผยว่า อัตราเงินเฟ้อต่ำมากหรือติดลบของบางประเทศในยูโรโซน สะท้อนถึงความจำเป็นที่จะต้องเกิดกระบวนการปรับเปลี่ยนและปรับสมดุลเป็นการชั่วคราว โดยคาดว่าอัตราเงินเฟ้อรายปีในช่วงหลายเดือนข้างหน้านี้จะยังคงอยู่ที่ราวระดับปัจจุบันซึ่งอยู่ที่ 0.8% ในเดือนธ.ค.56
- กระทรวงการคลังของสหรัฐ เปิดเผยว่า รัฐบาลกลางมียอดเกินดุลงบประมาณเล็กน้อยในเดือนธ.ค.56 เนื่องจากการชำระดอกเบี้ยสำหรับหลักทรัพย์ของรัฐบาลได้ช่วยกระตุ้นให้รายรับเพิ่มขึ้น โดยในเดือนธ.ค.56 ซึ่งเป็นเดือนที่ 3 ของปีงบประมาณ 57 นั้น รายรับเพิ่มขึ้น 5% จากช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อนหน้า สู่ระดับ 2.83 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐ
ส่วนการใช้จ่ายลดลง 14.8% แตะที่ 2.30 แสนล้านดอลลาร์ ตัวเลขดังกล่าวส่งผลให้ยอดเกินดุลงบประมาณอยู่ที่ 5.3 หมื่นล้านดอลลาร์ ซึ่งตรงข้ามกับการขาดดุล 1.19 พันล้านในช่วงเดียวกันของปีก่อนหน้า
- สภาคองเกรสได้บรรลุข้อตกลงว่าด้วยร่างกฎหมายงบประมาณรายจ่ายวงเงิน 1 ล้านล้านดอลลาร์ ซึ่งจะทำให้รัฐบาลกลางยังคงสามารถเปิดดำเนินการได้ตลอดปีงบประมาณ 2557
ร่างกฎหมายดังกล่าวจะครอบคลุมถึงการใช้จ่ายตามดุลยพินิจของรัฐบาลกลางทั้งหมดสำหรับปีงบประมาณ 2557 ซึ่งจะสิ้นสุดลง ณ วันที่ 30 ก.ย. โดยมีการเพิ่มเติมรายละเอียดของข้อตกลงด้านงบประมาณซึ่งเป็นการตกลงกันระหว่างพรรคเดโมแครตและพรรคริพับลิกันเมื่อเดือนธ.ค. หลังจากที่เกิดวิกฤตชัตดาวน์หน่วยงานรัฐบาลบางส่วนที่ยืดเยื้อถึง 16 วันในเดือนต.ค.