วันนี้การซื้อขายเงินบาทค่อนข้างเงียบ ไม่ค่อยมีปัจจัยน่าสนใจ สัปดาห์นี้ตัวเลขเศรษฐกิจที่น่าสนใจค่อนข้างน้อย อาจจะต้องรอดูทางฝั่งสหรัฐฯ วันพรุ่งนี้ที่จะมีการรายงานยอดสั่งซื้อสินค้าคงทน ขณะที่ปัจจัยในบ้านเราก็ยังคงเป็นเรื่องการชุมนุมทางการเมือง
"วันนี้ตลาดค่อนข้างเงียบ ไม่มีปัจจัยที่น่าสนใจ รอดูพรุ่งนี้ที่สหรัฐฯ จะประกาศตัวเลขการสั่งซื้อสินค้าคงทน ซึ่งหากตัวเลขออกมาเพิ่มขึ้น แสดงว่ามีการสั่งสินค้าอุตสาหกรรมเพิ่มขึ้น เป็นสัญญาณว่าแนวโน้มภาคอุตสาหกรรมสหรัฐฯ เริ่มฟื้น นักลงทุนอาจจะมองว่าอาจจะมีการถอน QE เร็วขึ้น และดอลลาร์อาจจะแข็งค่าขึ้นได้อีก ส่วนปัจจัยของไทยยังไม่มีอะไร" นักบริหารเงิน กล่าวทั้งนี้ คาดว่าวันพรุ่งนี้เงินบาทจะเคลื่อนไหวอยู่ในกรอบ 32.45-32.60 บาท/ดอลลาร์
- ปัจจัยสำคัญ
- ปิดตลาดเย็นนี้ เงินเยนอยู่ที่ระดับ 102.34 เยน/ดอลลาร์ จากช่วงเช้าที่ระดับ 102.31/35 เยน/ดอลลาร์
- ส่วนเงินยูโร อยู่ที่ระดับ 1.3745 ดอลลาร์/ยูโร จากช่วงเช้าที่ระดับ 1.3743/3745 ดอลลาร์/ยูโร
- ดัชนี SET ปิดวันนี้ที่ระดับ 1,304.62 เพิ่มขึ้น 0.74 จุด (+0.06%) โดยมีมูลค่าการซื้อขาย 20,017 ล้านบาท
- สรุปปริมาณการซื้อขายรายกลุ่ม ต่างชาติขายสุทธิ 1,188.38 ลบ.(SET+MAI)
- กระทรวงการคลัง เปิดเผยว่า ในช่วง 4 เดือนแรกของปีงบประมาณ 57 (ต.ค.56-ม.ค.57) รัฐบาลจัดเก็บรายได้สุทธิ 654,655 ล้านบาท สูงกว่าประมาณการ 1,500 ล้านบาท หรือร้อยละ 0.2
ขณะที่เฉพาะเดือนม.ค.57 รัฐบาลจัดเก็บรายได้สุทธิ 149,898 ล้านบาท ต่ำกว่าประมาณการจำนวน 12,106 ล้านบาท หรือร้อยละ 7.5 (ต่ำกว่าเดือนเดียวกันปีที่แล้วร้อยละ 8.3) โดยรายได้ของ 3 กรมจัดเก็บภาษี(สรรพากร, สรรพสามิต, ศุลกากร) จัดเก็บได้ต่ำกว่าเป้าหมาย 14,849 ล้านบาท หรือร้อยละ 8.3
- ตลาดหุ้นยุโรปเปิดตลาดวันนี้ปรับลดลง โดยดัชนี Stoxx Europe อ่อนตัว 0.3% แตะ 337.5 เมื่อเวลา 08.25 น.ตามเวลาลอนดอน ขณะที่นักลงทุนยังคงรอดูการรายงานผลประกอบการของบริษัทต่างๆ รวมทั้งยอดขายบ้านใหม่ของสหรัฐที่จะมีการเปิดเผยในคืนนี้
- ผลการสำรวจโดยบริษัทวิจัย GfK เผยให้เห็นว่า ความเชื่อมั่นของผู้บริโภคเยอรมนีในเดือนมี.ค.เพิ่มขึ้นแตะ 8.5 ซึ่งเป็นระดับสูงสุดในรอบ 7 ปี เทียบกับ 8.3 ในเดือนก.พ. บ่งชี้ว่าเศรษฐกิจของเยอรมนี ซึ่งมีขนาดใหญ่ที่สุดในยูโรโซนนั้น กำลังปรับตัวแข็งแกร่งในภาพรวม
- 3 ค่ายรถยักษ์ใหญ่ญี่ปุ่นมียอดการผลิตในประเทศเพิ่มขึ้นในเดือนม.ค.นี้ เนื่องจากการเปิดตัวรถรุ่นใหม่ และอุปสงค์ที่แข็งแกร่งก่อนที่การขึ้นภาษีการบริโภคจะมีผลบังคับใช้ในเดือนเม.ย.นี้
โดยโตโยต้า มอเตอร์ คอร์ป มียอดการผลิตรถในญี่ปุ่นเพิ่มขึ้น 5.4% จากปีก่อน แตะระดับ 293,737 คัน ขณะที่การผลิตของนิสสัน มอเตอร์ เพิ่มขึ้น 13.7% แตะระดับ 80,360 คัน ซึ่งเป็นการปรับตัวขึ้นเมื่อเทียบรายปีเป็นครั้งแรกในรอบ 20 เดือน ส่วนฮอนด้า มอเตอร์ ผลิตรถยนต์ 97,145 คัน เพิ่มขึ้น 65.3%
- ขณะที่ "เกรท วอลล์ มอเตอร์" บริษัทผลิตรถยนต์สัญชาติจีน ได้ตัดสินใจเลื่อนแผนการก่อสร้างโรงงานในประเทศไทยออกไป เนื่องจากวิตกว่าสถานการณ์ความตึงเครียดทางการเมืองในไทยอาจส่งผลกระทบต่อการลงทุนในโรงงานแห่งใหม่ และต่อการขายรถยนต์ในประเทศ
- สมาคมแลกเปลี่ยนทองคำและเงินของจีน เปิดเผยราคาทองคำที่ตลาดฮ่องกงปรับตัวขึ้น 65 ดอลลาร์ฮ่องกง ปิดที่ระดับ 12,450 ดอลลาร์ฮ่องกง/ตำลึงในวันนี้ โดยราคาดังกล่าวเทียบเท่ากับ 1,346.75 ดอลลาร์สหรัฐ/ทรอยออนซ์ เพิ่มขึ้น 7.03 ดอลลาร์สหรัฐ ที่อัตราแลกเปลี่ยนล่าสุดที่ 1 ดอลลาร์สหรัฐ/7.76 ดอลลาร์ฮ่องกง