นักบริหารเงิน เปิดเผยว่า เงินบาทปิดตลาดเย็นนี้ที่ระดับ 32.23/25 บาท/ดอลลาร์ จากช่วงเช้าที่เปิดตลาดที่ระดับ 32.28/30 บาท/ดอลลาร์
เงินบาทแข็งค่าจากช่วงเช้าตามทิศทางของค่าเงินสกุลอื่นๆ ในภูมิภาคที่วันนี้กลับมาแข็งค่ากันหมดเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ และอีกสาเหตุคือเป็นเพราะมี flow ไหลเข้าประเทศ โดยช่วงนี้นักลงทุนรอติดตามผลการประชุมของคณะกรรมการกำหนดนโยบายการเงิน(FOMC) ของธนาคารกลางสหรัฐที่จะมีขึ้นในระหว่างวันที่ 18-19 มี.ค.นี้
"วันนี้บาทแข็งค่าตามสกุลเงินในภูมิภาค เป็นการ take profit จากที่ก่อนหน้านี้อ่อนค่าไปค่อนข้างมากแล้ว" นักบริหารเงิน ระบุ
อย่างไรก็ดี มีปัจจัยที่ต้องติดตามคือท่าทีของสหภาพยุโรป และสหรัฐอเมริกา หลังจากผลการทำประชามติของชาวไครเมียถึงเกือบ 97% ระบุว่าต้องการแยกตัวออกจากยูเครนเพื่อเข้าร่วมเป็นส่วนหนึ่งของรัสเซีย ซึ่งหากสหภาพยุโรปและสหรัฐอเมริกาไม่เห็นด้วยและมีการแซงชั่นรัสเซียจากกรณีนี้ ก็อาจจะทำให้เกิดความตึงเครียดขึ้นอีกรอบ และดอลลาร์สหรัฐจะกลับมาแข็งค่าได้
นักบริหารเงิน คาดว่า พรุ่งนี้เงินบาทจะยังแข็งค่าต่อได้ แต่คงไม่เคลื่อนไหวมากนัก มองกรอบไว้ที่ 32.20-32.30 บาท/ดอลลาร์
- ปัจจัยสำคัญ
- ปิดตลาดเย็นนี้ เงินเยนอยู่ที่ระดับ 101.80 เยน/ดอลลาร์ จากช่วงเช้าอยู่ที่ระดับ 101.47 เยน/ดอลลาร์
- ส่วนเงินยูโรอยู่ที่ระดับ 1.3894 ดอลลาร์/ยูโร จากช่วงเช้าอยู่ที่ระดับ 1.3907 ดอลลาร์/ยูโร
- ดัชนี SET ปิดวันนี้ที่ระดับ 1,377.10 เพิ่มขึ้น 4.92 จุด (+0.36%) โดยมีมูลค่าการซื้อขาย 29,039 ล้านบาท
- สรุปปริมาณการซื้อขายรายกลุ่ม ต่างชาติขายสุทธิ 1,538.89 ลบ.(SET+MAI)
- ที่ประชุมศูนย์รักษาความสงบ(ศรส.)วันนี้ มีมติเห็นชอบให้เสนอที่ประชุมคณะรัฐมนตรีวันพรุ่งนี้(18 มี.ค.) ให้ยกเลิกการบังคับใช้ พ.ร.ก.การบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน ในพื้นที่กรุงเทพฯ และปริมณฑล และให้ประกาศใช้ พ.ร.บ.การรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักรแทน เนื่องจากเห็นว่าสถานการณ์การชุมนุมตลอดจนเหตุร้ายแรงต่างๆ ได้ลดระดับลงมากแล้ว ซึ่งการยกเลิก พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ จะส่งผลดีต่อภาพลักษณ์ของประเทศทั้งในแง่ของการลงทุน ธุรกิจ และการท่องเที่ยว
- ศูนย์รักษาความสงบ(ศรส.) เปิดเผยว่า ตามที่ได้แต่งตั้งคณะทำงานเพื่อกำหนดแนวทางการช่วยเหลือประชาชนและธุรกิจขนาดกลางและขนาดย่อมที่ได้รับผลกระทบจากการชุมนุมปิดกรุงเทพมหานครของคณะกรรมการประชาชนเพื่อการเปลี่ยนแปลงประเทศให้เป็นประชาธิปไตยที่สมบูรณ์อันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข(กปปส.) ทางคณะทำงานฯ จะแจ้งผลเป็นทางการกลับมายัง ศรส. ภายในวันนี้ ซึ่ง ศรส.จะได้พิจารณาแนวทางดังกล่าว และดำเนินการเสนอให้คณะรัฐมนตรีแจ้งหรือสั่งการให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องรับไปดำเนินการให้การช่วยเหลือประชาชนและธุรกิจขนาดกลางและขนาดย่อมโดยเร่งด่วนต่อไป
- ม.ร.ว.ปรีดิยาธร เทวกุล อดีตรองนายกรัฐมนตรี และรมว.คลัง เชื่อว่าปัญหาทางการเมืองใกล้จะจบแล้ว เนื่องจากคดีหลายอย่างที่เกี่ยวข้องกับรัฐบาลเริ่มมีการทยอยพิจารณาตัดสินตามกระบวนการทางกฎหมาย ขณะนี้ควรมีรัฐบาลใหม่ที่มีอำนาจเต็มเข้ามาบริหารประเทศโดยเร็วที่สุด เพื่อขับเคลื่อนเศรษฐกิจและการลงทุนในโครงการที่จำเป็น แต่หากภายในครึ่งปีแรกยังไมีมีรัฐบาลใหม่ จะส่งผลกระทบให้การลงทุนชะลอตัวลงมากกว่าในปัจจุบัน โดยเฉพาะในภาคอสังหาริมทรัพย์ที่ขณะนี้เริ่มเห็นสัญญาณการชะลอตัวแล้ว
- ตลาดหุ้นยุโรปเปิดตลาดวันนี้ปรับตัวสูงขึ้น โดยดัชนี Stoxx Europe 600 บวก 0.2% แตะ 322.75 เมื่อเวลา 08.05 น.ตามเวลาลอนดอน ในขณะที่หลายบริษัทได้ทยอยขายธุรกิจของตนเอง โดยนักลงทุนยังจับตาการเปิดเผยข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐในคืนนี้ รวมทั้งกรณีการขอแยกตัวของแคว้นไครเมียออกจากยูเครน
- รัฐสภาไครเมียได้ประกาศอิสรภาพในฐานะรัฐอิสระจากยูเครน หลังจากวันนี้คณะกรรมการการเลือกตั้งของเขตปกครองไครเมีย เปิดเผยผลการนับคะแนนในการทำประชามติบ่งชี้ว่า 96.6% ของชาวไครเมียที่ใช้สิทธิในครั้งนี้ต้องการจะแยกตัวออกจากยูเครน และเข้าร่วมเป็นส่วนหนึ่งของสหพันธรัฐรัสเซีย โดยไครเมียมีประชากรราว 2 ล้านคน
- นายกรัฐมนตรีหลี่ เค่อ เฉียง ของจีนได้เตือนบรรดาเจ้าหนี้ของภาคโรงงานเอกชนให้เตรียมรับมือกับคลื่นการล้มละลาย เนื่องจากเศรษฐกิจที่ชะลอตัวลง ได้ส่งผลให้บริษัทจำนวนมากมีเพดานหนี้สูงจนอาจผิดนัดชำระหนี้ และไม่สามารถดำเนินธุรกิจต่อไปได้
- สมาคมแลกเปลี่ยนทองคำและเงินของจีน เปิดเผยว่า ราคาทองคำที่ตลาดฮ่องกงพุ่งขึ้น 110 ดอลลาร์ฮ่องกง ปิดที่ระดับ 12,800 ดอลลาร์ฮ่องกง/ตำลึงในวันนี้ โดยราคาดังกล่าวเทียบเท่ากับ 1,384.61 ดอลลาร์สหรัฐ/ทรอยออนซ์ เพิ่มขึ้น 11.90 ดอลลาร์สหรัฐ ที่อัตราแลกเปลี่ยนล่าสุด 1 ดอลลาร์สหรัฐ/7.76 ดอลลาร์ฮ่องกง