(เพิ่มเติม) เงินบาทเปิด 32.21/23 แนวโน้มแข็งค่า รอผล FOMC มองกรอบ 32.10-32.25

"เปิดตลาดเช้านี้ปรับตัวแข็งค่าตามแรงเทขายดอลลาร์จนหลุด 32.20(บาท/ดอลลาร์) มาทำนิวโลว์ขอปีนี้ที่ 32.16(บาท/ดอลลาร์)" นักบริหารเงิน กล่าว

นักลงทุนรอดูผลประชุมคณะกรรมการกำหนดนโยบายการเงิน(FOMC) ของธนาคารกลางสหรัฐที่จะมีขึ้นในช่วงวันที่ 18-19 มี.ค.นี้ ซึ่งจะทำให้รู้ทิศทางของดอลลาร์ว่าจะไปทางไหน รวมถึงท่าทีของสหรัฐและสหภาพยุโรปที่มีต่อรัสเซียเกี่ยวกับปัญหาไครเมีย

นักบริหารเงิน คาดว่า วันนี้เงินบาทจะยังแข็งค่าต่อได้ แต่คงไม่เคลื่อนไหวมากนัก มองกรอบไว้ที่ 32.10-32.25 บาท/ดอลลาร์

"เงินบาทวันนี้มีแนวโน้มแข็งค่าได้อีกได้คงไม่หลุด 32.10(บาท/ดอลลาร์)" นักบริหารเงิน กล่าว

ล่าสุด SPOT อยู่ที่ระดับ 32.1667 บาท/ดอลลาร์ ส่วน THAI BAHT FIX 3M (17 มี.ค.) อยู่ที่ 2.03291% และ THAI BAHT FIX 6M (17 มี.ค.) อยู่ที่ 2.02171%

• ปัจจัยสำคัญ

• เงินเยนอยู่ที่ระดับ 101.70 เยน/ดอลลาร์ จากเย็นวานนี้ที่ระดับ 101.80 เยน/ดอลลาร์
• เงินยูโรอยู่ที่ระดับ 1.3932 ดอลลาร์/ยูโร จากเย็นวานนี้ที่ระดับ 1.3894 ดอลลาร์/ยูโร
• อัตราแลกเปลี่ยนบาท/ดอลลาร์ ถัวเฉลี่ยถ่วงน้ำหนักระหว่างธนาคารของธปท.อยู่ที่ 32.2520 บาท/ดอลลาร์
• 6 องค์กรตามรัฐธรรมนูญ "ถอย" ไม่ทำหน้าที่คนกลางเจรจา "รัฐบาล-กปปส." ขอเป็นแค่ผู้อำนวยความสะดวก เปิดทางให้คู่ขัดแย้งหลักเสนอชื่อฝ่ายละ 10 คนเพื่อนำมาหาชื่อซ้ำกัน 5 ชื่อตั้งเป็น "คณะคนกลาง" ด้าน "เอกนัฏ" ปัดเสนอชื่อ อ้างผู้ชุมนุมไม่ได้ริเริ่มขอเจรจา ขณะที่ "สมชาย" แนะกลับไปทำหน้าที่ของตัวเอง
• แบงก์ชาติระบุสัญญาณหนี้เสียรถมือสองพุ่ง หลังลูกค้ายอมทิ้งหันไปซื้อรถใหม่ ผู้ค้าระบุ ภาพรวมตลาดยังทรุดหนัก ยอดขายร่วงต่อเนื่อง 50% ผลกระทบเศรษฐกิจชะลอตัว พิษรถคันแรกเร่งปรับตัว เพิ่มช่องทางขาย ปรับพอร์ต ลดขนาดธุรกิจ ขณะที่กลุ่มทุนญี่ปุ่นเดินหน้ารุกไทย ดันตลาดเข้าสู่ยุคโมเดิร์นเทรด เล็งขยายเครือข่าย 100 แห่ง ปีหน้า
• สมาคมแลกเปลี่ยนทองคำและเงินของจีน เผยราคาทองคำที่ตลาดฮ่องกงปรับตัวลง 120 ดอลลาร์ฮ่องกง เปิดที่ระดับ 12,680 ดอลลาร์ฮ่องกง/ตำลึงในวันนี้ หรือราคาเทียบเท่ากับ 1,371.63 ดอลลาร์สหรัฐ/ทรอยออนซ์ ลดลง 12.98 ดอลลาร์สหรัฐ
• China Foreign Exchange Trading System(CFETS) รายงานว่า เงินหยวนอ่อนค่าลง 0.20% แตะที่ 6.1341 หยวนต่อดอลลาร์เช้าวันนี้
• สหภาพยุโรปประกาศใช้มาตรการคว่ำบาตรผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการลงประชามติในไครเมียจำนวน 21 ราย โดยระบุว่าการกระทำของกลุ่มบุคคลดังกล่าวเป็นการคุกคามบูรณภาพแห่งดินแดนของยูเครน
• นายวิลเลียม เฮก รมต.ต่างประเทศของอังกฤษ กล่าวว่า รัฐมนตรีต่างประเทศของสหภาพยุโรป(อียู) ได้เริ่มหารือถึงมาตรการระยะยาวเกี่ยวกับวิกฤตยูเครน และรวมถึงการที่อียูจำเป็นต้องลดการพึ่งพาด้านพลังงานจากรัสเซียในอีกหลายปีที่จะถึง
• ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดพุ่งขึ้นเมื่อคืนนี้ หลังรู้ผลการลงประชามติอย่างเป็นทางการในเขตปกครองพิเศษไครเมียระบุว่า ชาวไครเมียส่วนใหญ่ต้องการแยกตัวออกจากยูเครนและไปรวมกับรัสเซีย ซึ่งข่าวดังกล่าวเป็นไปตามที่ตลาดคาดการณ์ไว้แล้วก่อนหน้านี้
• สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดร่วงลงเมื่อคืนนี้ เนื่องจากการพุ่งขึ้นอย่างแข็งแกร่งของตลาดหุ้นสหรัฐได้กระตุ้นให้นักลงทุนเทขายสัญญาทองคำเพื่อทำกำไรและเข้าซื้อในตลาดหุ้น ส่งผลให้สัญญาทองคำปรับตัวลงหลังจากที่พุ่งขึ้นติดต่อกันนานถึง 5 วัน โดยสัญญาทองคำตลาด COMEX(Commodity Exchange) ส่งมอบเดือน เม.ย.ร่วงลง 6.1 ดอลลาร์ หรือ 0.44% ปิดที่ 1,372.9 ดอลลาร์/ออนซ์ ส่วนสัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือน มี.ค.ลดลง 13.8 เซนต์ ปิดที่ 21.275 ดอลลาร์/ออนซ์ ขณะที่สัญญาพลาตินัมส่งมอบเดือน เม.ย.ลดลง 1.20 ดอลลาร์ ปิดที่ 1468.40 ดอลลาร์/ออนซ์ และสัญญาพัลลาเดียมส่งมอบเดือน มิ.ย.เพิ่มขึ้น 3.15 ดอลลาร์ ปิดที่ 776.40 ดอลลาร์/ออนซ์
• สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส(WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดลบเมื่อคืนนี้ เนื่องจากกระแสคาดการณ์ที่ว่ารัสเซียอาจจะไม่ระงับการส่งออกน้ำมันไปยังยุโรป หลังจากผลการลงประชามติในเขตปกครองพิเศษไครเมียระบุว่า ชาวไครเมียส่วนใหญ่ต้องการแยกตัวออกจากยูเครนและไปรวมกับรัสเซีย โดยสัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือน เม.ย.ลดลง 81 เซนต์ ปิดที่ 0.8% ปิดที่ 98.08 ดอลลาร์/บาร์เรล ส่วนสัญญาน้ำมันดิบเบรนท์(BRENT) ส่งมอบเดือน เม.ย.ที่ตลาดลอนดอน ร่วงลง 1.97 ดอลลาร์ หรือ 1.8% ปิดที่ 106.24 ดอลลาร์/บาร์เรล
• สกุลเงินดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับเงินเยน ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กเมื่อคืนนี้ เนื่องจากนักลงทุนคลายความวิตกกังวลเกี่ยวกับสถานการณ์การเมืองในยูเครน หลังจากการลงประชามติของเขตปกครองไครเมียเป็นไปอย่างราบรื่นและไม่มีเหตุการณ์รุนแรง โดยดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับเงินเยนที่ระดับ 101.72 เยน จากระดับของวันศุกร์ที่ 101.28 เยน และแข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับฟรังค์สวิสที่ระดับ 0.8733 ฟรังค์ จากระดับ 0.8727 ฟรังค์ ขณะที่ยูโรแข็งค่าขึ้นแตะระดับ 1.3920 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 1.3904 ดอลลาร์สหรัฐ เงินปอนด์แข็งค่าขึ้นแตะ 1.6636 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 1.6627 ดอลลาร์สหรัฐ ดอลลาร์ออสเตรเลียแข็งค่าขึ้นแตะ 0.9087 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 0.9023 ดอลลาร์สหรัฐ
• ตลาดหุ้นยุโรปปิดบวกเมื่อคืนนี้ เพราะได้แรงหนุนจากข้อมูลเศรษฐกิจที่แข็งแกร่งของสหรัฐ และผลการลงประชามติของไครเมียที่ผ่านพ้นไปอย่างราบรื่นโดยไม่มีเหตุรุนแรง