(เพิ่มเติม) เงินบาทเปิด 32.16/18 แนวโน้มแข็งค่าต่อ หลังเฟดยังไม่ขึ้นดอกเบี้ยเร็วตามคาด

ข่าวเศรษฐกิจ Thursday April 10, 2014 11:10 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นักบริหารเงินจากธนาคารซีไอเอ็มบีไทย เปิดเผยว่า เงินบาทเปิดตลาดเช้านี้อยู่ที่ระดับ 32.16/18 บาท/ดอลลาร์ แข็งค่าจากช่วงเย็นวานนี้ที่ปิดตลาดที่ 32.24/25 บาท/ดอลลาร์

เงินบาทเช้านี้ปรับตัวแข็งค่าต่อเนื่องจากเมื่อวาน และคาดว่าวันนี้ยังมีแนวโน้มแข็งค่าต่อ หลังจากที่มีรายงานจากการประชุมกำหนดนโยบายการเงิน(FOMC) ของธนาคารกลางสหรัฐ(FED) ระบุว่า เจ้าหน้าที่กำหนดนโยบายของเฟดต่างเห็นพ้องกันที่จะปรับเปลี่ยนแนวทางในการพิจารณาปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย

"ปัจจัยที่บาทลงมา เนื่องจาก FED มีรายงานออกมาว่าจะไม่มีปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเร็วอย่างที่มีการคาดการณ์กันไว้" นักบริหารเงิน ระบุ

นักบริหารเงิน คาดว่า วันนี้เงินบาทจะเคลื่อนไหวอยู่ในกรอบ 32.10-32.30 บาท/ดอลลาร์

ล่าสุด SPOT อยู่ที่ระดับ 32.2238 บาท/ดอลลาร์ ส่วน THAI BAHT FIX 3M(9 เม.ย.) อยู่ที่ 1.90315% และ THAI BAHT FIX 6M (9 เม.ย.) อยู่ที่ 1.97084%

  • ปัจจัยสำคัญ
  • เปิดตลาดเช้านี้ เงินเยนอยู่ที่ระดับ 101.94/96 เยน/ดอลลาร์ จากเมื่อเย็นวานที่ 102.12 เยน/ดอลลาร์
  • ส่วนเงินยูโรอยู่ที่ระดัดับ 1.3851/3854 ดอลลาร์/ยูโร จากเมื่อเย็นวานที่ 1.3800 ดอลลาร์/ยูโร
  • อัตราแลกเปลี่ยนบาท/ดอลลาร์ ถัวเฉลี่ยถ่วงน้ำหนักระหว่างธนาคารของธปท.อยู่ที่ 32.2230 บาท/ดอลลาร์
  • กรมสรรพากรเผยยอดจัดเก็บรายได้ 6 เดือนแรกของปีงบประมาณ 57 ต่ำกว่าเป้า 2.3 หมื่นล้านบาท สาเหตุหลักเกิดจากรายได้ภาษีมูลค่าเพิ่มนำเข้า เครื่องมือเครื่องจักรอุปกรณ์ลดลง ขณะที่ภาษีบุคคลธรรมดามีผู้ยื่นแบบกว่า 10 ล้านราย ขอคืนภาษี 2.4 หมื่นล้านบาท
  • ไอเอ็มเอฟเคาะเศรษฐกิจไทยปี57ขยายตัว 2.5%ต่ำสุดในอาเซียน เตือนประเทศกำลังพัฒนาอาจเผชิญปัญหาเงินไหลออกจากมาตรการลดคิวอีของสหรัฐ ด้านคลังยอมรับส่งออกตัวช่วยสุดท้ายทำท่าจะวืดเพราะชาติคู่คู่ค้าสำคัญอย่างสหรัฐ-ยุโรปยังไม่ฟื้นตัวชัด ต้องหันพึ่งตลาดอาเซียนทำรายได้เข้ามาพยุงเศรษฐกิจ
  • ดอลลาร์สหรัฐยังคงร่วงลงเมื่อเทียบสกุลเงินหลักส่วนใหญ่เมื่อคืนนี้(9 เม.ย.) หลังจากรายงานการประชุมนโยบายการเงินของธนาคารกลางสหรัฐ (FED) บ่งชี้ว่าเฟดอาจจะไม่ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในเร็วๆ นี้ จากที่ก่อนหน้านี้ นักลงทุนต่างวิตกกับถ้อยแถลงของนางเจเน็ต เยลเลน ประธานเฟด ที่กล่าวหลังการประชุมในเดือนมี.ค.ว่าเฟดอาจจะเริ่มปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยหลังจากเฟดยุติโครงการซื้อพันธบัตรไปแล้วราว 6 เดือน ซึ่งเร็วกว่าที่บรรดานักวิเคราะห์เคยคาดการณ์ไว้
  • รายงานการประชุมนโยบายการเงินของธนาคารกลางสหรัฐ (FED) เมื่อวันที่ 18-19 มี.ค.ระบุว่า เจ้าหน้าที่กำหนดนโยบายของเฟดต่างเห็นพ้องกันที่จะปรับเปลี่ยนแนวทางในการพิจารณาปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย โดยส่วนใหญ่เห็นพ้องกันที่จะพิจารณาการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยด้วยการประเมินจากสถานการณ์ด้านการจ้างงาน แทนการระบุเป้าหมายที่เป็นตัวเลข

ขณะที่นางเจเน็ต เยลเลน ประธานเฟด ได้กล่าวในการแถลงข่าวหลังเสร็จสิ้นการประชุมนโยบายในเดือนที่แล้วว่า เฟดอาจปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในช่วงฤดูใบไม้ผลิปีหน้า ซึ่งได้สร้างความประหลาดใจแก่นักลงทุนจำนวนมาก ทั้งนี้ในรายงานระบุว่าเจ้าหน้าที่เฟดที่ร่วมประชุม ซึ่งรวมถึงนางเยลเลน ไม่ได้หารือถึงกำหนดเวลาของการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยที่มีความเป็นไปได้แต่อย่างใด

  • ตลาดหุ้นเอเชียปรับตัวเพิ่มขึ้นในช่วงเช้านี้ โดยดัชนี MSCI Asia Pacific ทะยาน 0.7% เมื่อเวลา 09.54 น.ตามเวลาโตเกียว เนื่องจากรายงานการประชุมของธนาคารกลางสหรัฐ(FED) ทำให้นักลงทุนคลายความวิตกกังวลที่ว่าเฟดอาจจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย ขณะเดียวกันนักลงทุนก็จับตาดูจีนเปิดเผยข้อมูลการค้าเดือนมี.ค.ในวันนี้
  • สมาคมแลกเปลี่ยนทองคำและเงินของจีน เปิดเผยราคาทองคำที่ตลาดฮ่องกงปรับตัวขึ้น 40 ดอลลาร์ฮ่องกง เปิดที่ระดับ 12,180 ดอลลาร์ฮ่องกง/ตำลึงในวันนี้ โดยราคาดังกล่าวเทียบเท่ากับ 1,319.24 ดอลลาร์สหรัฐ/ทรอยออนซ์ เพิ่มขึ้น 4.33 ดอลลาร์สหรัฐ ที่อัตราแลกเปลี่ยนล่าสุดที่ 1 ดอลลาร์สหรัฐต่อ 7.75 ดอลลาร์ฮ่องกง
  • สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส(WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดพุ่งขึ้นเมื่อคืนนี้ เพราะได้รับแรงหนุนจากการคาดการณ์ที่ว่า การลำเลียงน้ำมันในเส้นทางที่ต้องผ่านทางยูเครนนั้น อาจจะได้รับผลกระทบจากสถานการณ์ตึงเครียดทางการเมือง และคาดว่ารัสเซียอาจจะถูกคว่ำบาตรมากขึ้นหลังจากเข้าแทรกแซงกิจการยูเครน

โดยสัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนพ.ค.พุ่งขึ้น 1.04 ดอลลาร์ หรือ 1% ปิดที่ 103.6 ดอลลาร์/บาร์เรล ส่วนสัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ (BRENT) ส่งมอบเดือนพ.ค.ที่ตลาดลอนดอน เพิ่มขึ้น 32 เซนต์ หรือ 0.3% ปิดที่ 107.98 ดอลลาร์/บาร์เรล


แท็ก เงินบาท   เฟด  

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ