ทั้งนี้ศูนย์วิจัยฯ ประเมินการส่งออกปีนี้จะขยายตัวที่ 4% จากเดิมคาดว่าจะขยายตัวได้ 5% หลังการส่งออกในไตรมาสแรกของปีนี้หดตัว 1% เนื่องจากการส่งออกรถยนต์และส่วนประกอบไปตลาดหลักในประเทศ อินโดนีเซีย และออสเตรเลียหดตัว รวมถึงสินค้าเกษตร เช่น ยางพารา และอาหารทะเล มีราคาตกต่ำ โดยการส่งออกที่ขยายตัวได้ในปีนี้มาจากการเติบโตที่ดีขึ้นของการส่งออกรถยนต์ไปยังตลาดรอง เช่น ซาอุดิอาระเบีย มาเลเซีย และฟิลิปปินส์ ขณะที่การส่งออกสินค้าประเภทอิเล็กทรอนิกส์ เครื่องใช้ไฟฟ้าเริ่มเห็นการฟื้นตัว
สำหรับค่าเงินบาทในอนาคตมีแนวโน้มอ่อนค่าจากปัจจุบันเนื่องจากการไหลออกของเงินทุนต่างประเทศที่เป็นผลมาจากอัตราเติบโตทางเศรษฐกิจและผลประกอบการของธุรกิจที่ได้รับผลกระทบจากการเมือง แม้จะมีเงินทุนต่างประเทศไหลเข้ามาในตลาดทุนในช่วงเดือน มี.ค.ที่ผ่านมาก็ตาม แต่อัตราดอกเบี้ยนโยบายมีแนวโน้มที่จะปรับลดลงต่ำกว่าประเทศเพื่อนบ้าน และการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายของสหรัฐที่เร็วกว่ากำหนด ซึ่งจะทำให้ค่าเงินบาทเฉลี่ยอยู่ที่ 33 บาท/ดอลลาร์