เงินบาทปิด 32.51/52 อ่อนตามสกุลภูมิภาค มองกรอบพรุ่งนี้ 32.40-32.60

ปิดตลาดเย็นนี้เงินบาทอ่อนค่าจากช่วงเช้า เป็น Flow จากการซื้อดอลลาร์เข้ามาค่อนข้างมาก ประกอบกับสกุลเงินในภูมิภาควันนี้ปรับตัวอ่อนค่าเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐเช่นกัน อย่างไรก็ดี ช่วงนี้ยังไม่มีปัจจัยใหม่ๆ ที่จะมีผลต่อตลาดเงินในประเทศเท่าใดนัก คงต้องจับตาไปที่สัปดาห์หน้า ทั้งการประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงิน(กนง.) ของธนาคารแห่งประเทศไทย รวมทั้งการประชุมคณะกรรมการกำหนดนโยบายการเงิน(FOMC) ของธนาคารกลางสหรัฐ

นักบริหารเงิน คาดว่า พรุ่งนี้เงินบาทจะเคลื่อนไหวอยู่ในกรอบ 32.40-32.60 บาท/ดอลลาร์

• ปัจจัยสำคัญ

• ปิดตลาดเย็นนี้ เงินเยนอยู่ที่ระดับ 102.03 เยน/ดอลลาร์ จากช่วงเช้าที่ระดับ 102.33/34 เยน/ดอลลาร์
• ส่วนเงินยูโรอยู่ที่ระดับ 1.3532 ดอลลาร์/ยูโร จากช่วงเช้าที่ระดับ 1.3524/3526 ดอลลาร์/ยูโร
• ดัชนี SET ปิดวันนี้ที่ระดับ 1,463.71 ลดลง 5.48 จุด(-0.37%) โดยมีมูลค่าการซื้อขาย 64,760 ล้านบาท
• สรุปปริมาณการซื้อขายรายกลุ่ม ต่างชาติขายสุทธิ 134.71 ล้านบาท(SET+MAI)
• ตลาดหุ้นยุโรปเปิดตลาดทรงตัวในวันนี้ โดยดัชนี Stoxx Europe 600 ขยับลงไม่ถึง 0.1% แตะ 349.61 เมื่อเวลา 08.05 น.ตามเวลาลอนดอน ภายหลังจากที่ธนาคารโลกได้ปรับลดคาดการณ์การขยายตัวของเศรษฐกิจโลก ขณะที่นักลงทุนรอดูการเปิดเผยข้อมูลว่างงานของอังกฤษในวันนี้
• กระทรวงการคลังจีน เผยรายได้การคลังของจีนยังคงขยายตัวขึ้นในเดือน พ.ค. ขณะที่เศรษฐกิจมีเสถียรภาพมากขึ้น โดยรายได้การคลังของจีนขยายตัว 7.2% เมื่อเทียบเป็นรายปีแตะ 1.37 ล้านล้านหยวน (2.2274 แสนล้านดอลลาร์) ทั้งนี้รายได้ของรัฐบาลกลางเพิ่มขึ้น 4.5% เมื่อเทียบรายปี แตะ 7.494 แสนล้านหยวน ส่วนรายได้ของรัฐบาลท้องถิ่น เพิ่มขึ้น 10.7% จากช่วงเวลาเดียวกันในปีที่แล้ว แตะ 6.176 แสนล้านหยวน
• สมาคมแลกเปลี่ยนทองคำและเงินของจีน เปิดเผยว่า ราคาทองคำที่ตลาดฮ่องกงเพิ่มขึ้น 60 ดอลลาร์ฮ่องกง ปิดที่ระดับ 11,700 ดอลลาร์ฮ่องกง/ตำลึงในวันนี้ โดยราคาดังกล่าวเทียบเท่ากับ 1,267.25 ดอลลาร์สหรัฐ/ทรอยออนซ์ เพิ่มขึ้น 6.50 ดอลลาร์สหรัฐ ที่อัตราแลกเปลี่ยนล่าสุด 1 ดอลลาร์สหรัฐ/ 7.75 ดอลลาร์ฮ่องกง
• ผลการสำรวจระบุว่าดัชนีความเชื่อมั่นทางธุรกิจของกลุ่มบริษัทขนาดใหญ่ในญี่ปุ่นในช่วงไตรมาส 2 ปีนี้ อยู่ที่ระดับ -14.6 ปรับตัวติดลบเป็นครั้งแรกในรอบ 6 ไตรมาส บ่งชี้ว่าบริษัทญี่ปุ่นมีความวิตกกังวลว่าการปรับขึ้นภาษีการบริโภคเมื่อวันที่ 1 เม.ย.ที่ผ่านมานั้น อาจจะส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจในประเทศ
• คณะกรรมการยุโรป(EC) ระดมเงินได้ 500 ล้านยูโร (677 ล้านดอลลาร์สหรัฐ) จากตลาดทุนต่างๆ เพื่อใช้ในการจัดสรรเงินกู้ล็อตแรกให้แก่ยูเครน ภายใต้โครงการความช่วยเหลือด้านการเงินในระดับมหภาคหมายเลข 2 (MFA II) โครงการ MFA II มีเป้าหมายให้ความช่วยเหลือยูเครนในเชิงเศรษฐกิจและการเงินในระยะที่ยูเครนอยู่ในช่วงหัวเลี้ยวหัวต่อแห่งการพัฒนา โดยโครงการนี้เป็นส่วนหนึ่งของชุดความช่วยเหลือยูเครนตามการประกาศของ EC เมื่อวันที่ 5 มี.ค.