เงินบาทปิดตลาด 32.50/52 รอผลประชุม FOMC คืนนี้เป็นตัวกำหนดทิศทาง

"วันนี้เงินบาททรงตัวค่อนข้างนิ่ง ขยับแค่ 4 สตางค์ ผล กนง.ออกมาก็ไม่ได้ทำให้ขยับไปไหน" นักบริหารเงิน กล่าว

กรณีที่คณะกรรมการนโยบายการเงิน(กนง.) มีมติเป็นเอกฉันท์ให้คงอัตราดอกเบี้ยนโยบายไว้ที่ร้อยละ 2 เป็นไปตามที่ตลาดคาดจึงไม่ส่งผลต่อค่าเงินบาท โดยนักลงทุนรอดูผลประชุมของคณะกรรมการนโยบายการเงินของธนาคารกลางสหรัฐ(FOMC) คืนนี้

นักบริหารเงิน คาดว่า วันพรุ่งนี้เงินบาทจะเคลื่อนไหวในกรอบ 32.30-32.70 บาท/ดอลลาร์

"ขึ้นอยู่กับ FOMC น่าจะไปได้แรงหากมีความชัดเจนออกมาสักด้านหนึ่ง" นักบริหารเงิน กล่าว

• ปัจจัยสำคัญ

• เงินเยนอยู่ที่ระดับ 102.24 เยน/ดอลลาร์ จากช่วงเช้าที่ระดับ 102.14 เยน/ดอลลาร์
• เงินยูโรอยู่ที่ระดับ 1.3557 ดอลลาร์/ยูโร จากช่วงเช้าที่ระดับ 1.3547 ดอลลาร์/ยูโร
• ดัชนี SET ปิดวันนี้ที่ระดับ 1,451.36 จุด ลดลง 19.66 จุด, -1.34% มูลค่าการซื้อขาย 45,764.83 ล้านบาท
• สรุปปริมาณการซื้อขายรายกลุ่ม ต่างชาติขายสุทธิ 2,762.41 ล้านบาท(SET+MAI)
• คณะกรรมการนโยบายการเงิน(กนง.) มีมติเป็นเอกฉันท์ให้คงอัตราดอกเบี้ยนโยบายไว้ที่ร้อยละ 2 ตามตลาดคาดการณ์ พร้อมคาดการณ์อัตราการขยายตัวทางเศรษฐกิจไทยในช่วงครึ่งหลังของปี 57 ขยายตัวได้ร้อยละ 3.4-3.5 เฉลี่ยทั้งปีโตร้อยละ 1.5 ขณะที่ปี 58 คาด GDP ขยายตัวกว่าร้อยละ 5
• คณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (บีโอไอ) นัดแรก ซึ่งมี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ผู้บัญชาการทหารบก (ผบ.ทบ.) หัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) เป็นประธานกรรมการ และพล.อ.อ.ประจิน จั่นตอง หัวหน้าฝ่ายเศรษฐกิจ คสช.เป็นรองประธานกรรมการ ว่า ที่ประชุมได้อนุมัติให้การส่งเสริมการลงทุนจำนวน 18 โครงการ รวมมูลค่าเงินลงทุน 122,837.7 ล้านบาท
• นายสุพันธ์ มงคลสุธี ประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) กล่าวว่า ภายหลังจากมีคณะรักษาความสงบแห่งชาติ(คสช.) เข้ามาบริหารงานประเทศ ทำให้ภาคธุรกิจมีความเชื่อมั่นมากขึ้น คาดว่าจะเห็นภาพรวมดีขึ้นชัดเจนในช่วงเดือนมิ.ย.นี้ เห็นได้จากมีเงินเข้ามาหมุนเวียนในระบบเศรษฐกิจ ตลาดค้าปลีกโตได้ 10% ภาครัฐมีการเร่งเบิกจ่ายงบประมาณปี 2557 ที่ค้างท่อ เร่งรัดการจัดทำร่างงบประมาณประจำปี 2558 ที่น่าจะแล้วเสร็จทันต้นปีงบประมาณ และการเร่งอนุมัติโครงการส่งเสริมลงทุนอีกกว่า 7 แสนกว่าล้านบาท ซึ่งเป็นลักษณะการทยอยลงทุนต่อเนื่องในปีถัดไปด้วย โดยภาพรวมจึงน่าจะส่งผลให้อัตราการขยายตัวทางเศรษฐกิจปีนี้เติบโตได้ 2-2.5%
• ส.อ.ท. เผยดัชนีความเชื่อมั่นภาคอุตสาหกรรมในเดือนพฤษภาคม อยู่ที่ระดับ 85.1 ปรับเพิ่มขึ้นจากระดับ 84.0 ในเดือนเมษายน ซึ่งเป็นการปรับตัวเพิ่มขึ้นครั้งแรกในรอบ 7 เดือน
• ธนาคารกลางญี่ปุ่น(บีโอเจ) กลายเป็นผู้ถือครองพันธบัตรรัฐบาลรายใหญ่ที่สุดของประเทศในไตรมาสแรกของปีนี้ หลังจากบีโอเจได้ใช้นโยบายซื้อสินทรัพย์จำนวนมหาศาลเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจประเทศ โดยบีโอเจถือครองพันธบัตรรัฐบาลญี่ปุ่นมูลค่า 201 ล้านล้านเยน หรือ 1.97 ล้านล้านดอลลาร์ในช่วงสิ้นเดือน มี.ค.ซึ่งเป็นตัวเลขที่เพิ่มขึ้น 57.2% จากระดับปีที่แล้ว และยังเป็นสถิติการถือครองที่มากที่สุดนับตั้งแต่ที่ได้มีการเปรียบเทียบข้อมูลเมื่อไตรมาส 4 ปี 2540 โดยการถือครองพันธบัตรดังกล่าวคิดเป็นสัดส่วน 20.1% ของยอดรวม ซึ่งสูงกว่าสัดส่วนที่ถือครองโดยบริษัทประกันที่ 19.3%
• ผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลญี่ปุ่นอายุ 10 ปีปิดเพิ่มขึ้นในวันนี้ หลังราคาพันธบัตรสหรัฐที่ปรับตัวลดลงเมื่อคืนนี้เป็นปัจจัยหนุนแรงเทขาย รวมถึงหุ้นโตเกียวที่ปรับตัวขึ้นด้วย โดยอัตราผลตอบแทนพันธบัตรหมายเลข 334 ซึ่งเป็นมาตรวัดดอกเบี้ยระยะยาว ปิดที่ 0.590% ขยับขึ้น 0.005% จากระดับปิดเมื่อวานนี้ ขณะที่ราคาสัญญาพันธบัตรอายุ 10 ปี ส่งมอบเดือน มิ.ย.ปรับตัวลง 0.06 จุด แตะที่ 145.27 ที่ตลาดหุ้นโอซาก้า
• คณะบริหารของประธานาธิบดีบารัค โอบามา เปิดเผยมาตรการใหม่เพื่อเสริมสร้างความแข็งแกร่งให้อุตสาหกรรมภาคการผลิต และหนุนการขยายตัวด้านการจ้างงาน
• สมาคมแลกเปลี่ยนทองคำและเงินของจีน เผยราคาทองคำที่ตลาดฮ่องกงปรับตัวขึ้น 22 ดอลลาร์ฮ่องกง ปิดที่ระดับ 11,750 ดอลลาร์ฮ่องกง/ตำลึงในวันนี้ หรือราคาดังกล่าวเทียบเท่ากับ 1,272.67 ดอลลาร์สหรัฐ/ทรอยออนซ์ เพิ่มขึ้น 2.38 ดอลลาร์สหรัฐ
• ตลาดหุ้นยุโรปเปิดตลาดปรับตัวขึ้นต่อในวันนี้ ขณะที่นักลงทุนรอดูการตัดสินใจของคณะกรรมการนโยบายการเงินของธนาคารกลางสหรัฐคืนนี้
• ตลาดหุ้นเกิดใหม่ยังคงปรับตัวลงในวันนี้ ขณะที่นักลงทุนจับตาดูการประชุมของคณะกรรมการกำหนดนโยบายการเงินของธนาคารกลางสหรัฐ (FOMC) ซึ่งจะสิ้นสุดลงในวันพฤหัสบดีตามเวลาไทย ด้านสกุลเงินในหลายประเทศอ่อนค่าลง หลังจากราคาบ้านในจีนลดลง

---