เงินบาทตลอดทั้งวันนี้ค่อนข้างเคลื่อนไหวในกรอบแคบ โดยระหว่างวันทำ low ที่ระดับ 32.38/40 บาท/ดอลลาร์ และทำ high ที่ระดับ 32.42/44 บาท/ดอลลาร์ โดยวันนี้ยังไม่มีปัจจัยที่จะมีผลต่อการเคลื่อนไหวของค่าเงินบาทมากนัก ซึ่งคืนนี้ในฝั่งของสหรัฐฯ จะเป็นเพียงการรายงานตัวเลขเศรษฐกิจตามปกติ คือ ยอดผู้ขอรับสวัสดิการการว่างงานประจำสัปดาห์
"วันนี้เงินบาทค่อนข้างวิ่งในกรอบแคบๆ เพราะไม่มีปัจจัยอะไรที่จะมีผลต่อค่าเงิน ส่วนพรุ่งนี้ก็คาดว่าจะยังทรงตัว" นักบริหารเงิน กล่าวนักบริหารเงิน คาดว่า วันพรุ่งนี้เงินบาทจะเคลื่อนไหวอยู่ในกรอบ 32.30-32.50 บาท/ดอลลาร์
- ปัจจัยสำคัญ
- ปิดตลาดเย็นนี้ เงินเยนอยู่ที่ระดับ 101.70/80 เยน/ดอลลาร์ จากช่วงเช้าที่ระดับ 101.96/98 เยน/ดอลลาร์
- ส่วนเงินยูโรอยู่ที่ระดับ 1.3630/3640 ดอลลาร์/ยูโร จากช่วงเช้าที่ระดับ 1.3587/3588 ดอลลาร์/ยูโร
- ดัชนี SET ปิดวันนี้ที่ระดับ 1,461.91 เพิ่มขึ้น 10.55 จุด (+0.73%) โดยมีมูลค่าการซื้อขาย 43,560 ล้านบาท
- สรุปปริมาณการซื้อขายรายกลุ่ม ต่างชาติขายสุทธิ 3,845.54 ลบ.(SET+MAI)
- นายสถิตย์ ลิ่มพงศ์พันธุ์ ประธานกรรมการตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย(ตลท.) กล่าวถึงกระแสข่าวแนวคิดการเก็บภาษีกำไรจาการขายหุ้น (capital gain) นั้น เห็นว่า ยังไม่ควรนำแนวคิดดังกล่าวขึ้นมาพิจารณาเนื่องจากประเทศไทยยังอยู่ในช่วงสร้างความเชื่อมั่น ทั้งตลาดเงินและตลาดทุน
- นายบัณฑิต นิจถาวร กรรมการผู้อำนวยการ สมาคมส่งเสริมสถาบันกรรมการบริษัทไทย และ อดีตรองผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย กล่าวว่า เห็นด้วยกับคณะกรรมการนโยบายการเงิน(กนง.) ที่มีมติคงอัตราดอกเบี้ยที่ 2% เนื่องจากเห็นว่าแนวโน้มเศรษฐกิจจะฟื้นต้วครึ่งปีหลัง หลังจากหมดความกังวลจากความไม่แน่นอนทางการเมือง ขณะที่ภาคธุรกิจมีความเชื่อมั่นมากขึ้น สะท้อนจากที่ภาคเอกชนกลับมาลงทุนในโครงการต่างๆ
- ศูนย์ดัชนีและพยากรณ์เศรษฐกิจการค้า กระทรวงพาณิชย์ ระบุว่า ตามที่คณะกรรมการบริหารนโยบายพลังงาน(กบง.) ได้มีมติให้ลดราคาขายปลีกน้ำมันดีเซล หน้าสถานีบริการน้ำมันลง 14 สต./ลิตร จะช่วยลดแรงกดดันต่ออัตราเงินเฟ้อในช่วงที่เหลือของปีนี้ให้ลดลง 0.01% พร้อมกันนี้ ยังส่งผลให้ต้นทุนภาคการผลิตลดลง โดยเฉพาะภาคการขนส่ง และภาคการเกษตร ซึ่งมีการใช้น้ำมันดีเซลในสัดส่วนที่ค่อนข้างสูง โดยยังคงคาดว่าทั้งปี 2557 อัตราเงินเฟ้อจะอยู่ในกรอบที่ 2.00-2.80%
- ตลาดหุ้นเอเชียปรับตัวขึ้นในช่วงบ่ายวันนี้ โดยดัชนี MSCI Asia Pacific ดีดตัว 1.2% แตะ 145.42 หลังจากที่ธนาคารกลางสหรัฐระบุว่า อัตราดอกเบี้ยของสหรัฐจะยังคงอยู่ที่ระดับต่ำไป ขณะที่นายกรัฐมนตรีจีนให้คำมั่นว่าจะทำให้การขยายตัวของเศรษฐกิจประเทศบรรลุเป้าหมาย
- ตลาดหุ้นยุโรปเปิดตลาดดีดตัวขึ้นในวันนี้ โดยดัชนี Stoxx Europe 600 บวก 0.7% แตะ 348.53 เมื่อเวลา 08.08 น.ตามเวลาลอนดอน ภายหลังจากที่ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ให้คำมั่นว่าจะคงอัตราดอกเบี้ยที่ระดับต่ำเป็นประวัติการณ์ พร้อมกับระบุว่า เศรษฐกิจสหรัฐจะยังคงขยายตัวต่อไปอย่างต่อเนื่อง
- กรรมการกำหนดนโยบายของธนาคารกลางญี่ปุ่น(BOJ) แสดงความเชื่อมั่นว่า การขึ้นภาษีการบริโภคจาก 5% เป็น 8% ในเดือนเม.ย.ที่ผ่านมา จะไม่ส่งผลกระทบอย่างหนักต่อเศรษฐกิจภายในประเทศญี่ปุ่น ซึ่งสะท้อนให้เห็นว่าบีโอเจยังคงมีมุมมองที่เป็นบวกต่อแนวโน้มเศรษฐกิจ
- ธนาคารกลางเวียดนาม ปรับลดอัตราอ้างอิงค่าเงินดองลง 1% สู่ระดับ 21,246 ดอง/ดอลลาร์ นับเป็นการลดค่าเงินดองเป็นครั้งแรกในรอบ 1 ปี โดยมีเป้าหมายที่จะกระตุ้นภาคธุรกิจส่งออก