เงินบาทปิด 32.42/44 แกว่งแคบ มองกรอบพรุ่งนี้ 32.35-32.45

ข่าวเศรษฐกิจ Tuesday June 24, 2014 17:43 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นักบริหารเงิน เปิดเผยว่า เงินบาทปิดตลาดเย็นนี้อยู่ที่ระดับ 32.42/44 บาท/ดอลลาร์ จากช่วงเช้าที่เปิดตลาดที่ระดับ 32.43/46 บาท/ดอลลาร์

วันนี้เงินบาทแกว่งตัวในกรอบแคบๆ เคลื่อนไหวเพียง 5 สตางค์ โดยระหว่างวันเงินบาทไปทำ low ที่ระดับ 32.41 บาท/ดอลลาร์ และยังไม่มีปัจจัยที่ชัดเจน โดยเป็นเพียง flow จากแรงซื้อแรงขายที่เข้ามาค่อนข้างมากพอสมควร

นักบริหารเงิน คาดว่า พรุ่งนี้เงินบาทมีแนวโน้มแข็งค่า โดยมองกรอบที่ 32.35-32.45 บาท/ดอลลาร์

  • ปัจจัยสำคัญ
  • ปิดตลาดเย็นนี้ เงินเยนอยู่ที่ระดับ 101.90 เยน/ดอลลาร์ จากช่วงเช้าที่ระดับ 102 เยน/ดอลลาร์
  • ส่วนเงินยูโร อยู่ที่ระดับ 1.3616 ดอลลาร์/ยูโร จากช่วงเช้าที่ระดับ 1.3594 ดอลลาร์/ยูโร
  • ดัชนี SET ปิดวันนี้ที่ระดับ 1,460.92 ลดลง 7.78 จุด (-0.53%) โดยมีมูลค่าการซื้อขาย 35,986 ล้านบาท
  • สรุปปริมาณการซื้อขายรายกลุ่ม ต่างชาติขายสุทธิ 177.44 ลบ.(SET+MAI)
  • นายชัยพร น้อมพิทักษ์เจริญ ผู้ช่วยกรรมการผู้อำนวยการ สายงานวิจัยลูกค้าบุคคล บล.บัวหลวง เปิดเผยว่า กรณีที่สหภาพยุโรป(EU)ชะลอการเจรจาข้อตกลงเขตการค้าเสรี(FTA)กับไทยจะส่งผลกระทบต่อกลุ่มส่งออกทั้งอิเล็กทรอนิคส์ อาหาร และชิ้นส่วนรถยนต์ โดยเฉพาะ 8 บริษัทใหญ่ที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ ได้แก่ TUF, CPF, KCE, HANA, DELTA, SAT, PCSGH และ SVI ขณะเดียวกัน คาดว่าจะส่งผลกระทบต่อภาพรวมดัชนีตลาดหุ้นไทยตลอดทั้งสัปดาห์นี้
  • นายสุพันธุ์ มงคลสุธี ประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) กล่าวถึงกรณีที่สหภาพยุโรป (อียู) ชะลอการลงนามการเป็นหุ้นส่วนและความร่วมมือกับไทยว่า เป็นเพียงผลกระทบทางด้านจิตวิทยา และการลงนามความร่วมมือดังกล่าวเป็นการได้ประโยชน์ทั้งสองฝ่ายฉะนั้นหากไม่มีการลงนามทั้งสองฝ่ายก็ไม่ได้ประโยชน์
  • นายบัณฑูร ล่ำซำ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ธนาคารกสิกรไทย (KBANK) ระบุว่า ประเด็นเศรษฐกิจควรกระตุ้นเท่าที่จำเป็นเท่านั้น เพราะประเทศมีกำลังจำกัด ถ้ามากเกินไปก็อาจนำไปสู่โลกแบบเดิมๆ ตอนนี้เราไม่ได้ต้องการการกระตุ้นแต่เราต้องการการปฏิรูปเพื่อให้ความแข็งแกร่งอยู่ได้ในระยะยาวและดีขึ้นเรื่อยๆ
  • นายไพบูลย์ นรินทรางกูร ประธานสภาธุรกิจตลาดทุนไทย เผยผลหารือร่วมกับสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง(สศค.) ว่า ได้มายื่น 3 แนวทางเพื่อช่วยสร้างความเชื่อมั่นแก่ภาคตลาดทุนไทยทั้งในและต่างประเทศ ได้แก่ การจัดโรดโชว์ทั้งในและต่างประเทศเพื่อฟื้นความเชื่อมั่นในภาคตลาดทุน, การพัฒนาตลาดทุนไทยโดยจัดตั้งคณะกรรมการฯ ขึ้นมาใหม่ และการพิจารณาเรื่องการต่ออายุสิทธิประโยชน์ทางภาษีของกองทุน LTF และ RMF
  • นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ อดีตรองนายกรัฐมนตรี กล่าวปาฐกถาพิเศษเรื่อง "ภาคเอกชนกับอนาคตประเทศไทย" โดยมองว่าภาคเอกชนมีบทบาทสำคัญอย่างมากและจะเป็นหลักในการปฏิรูปประเทศให้ขับเคลื่อนไปในทิศทางที่ถูกต้องไม่ว่าจะมีรัฐบาลใดเข้ามาบริหารประเทศ โดยขอให้ใช้โอกาสในช่วงนี้ร่วมกันปฏิรูปประเทศเพื่อให้เกิดความยั่งยืนในอนาคต พร้อมเชื่อว่าจากวันนี้ไปสถานการณ์ภายในประเทศหลายๆ สิ่งจะดีขึ้นจากไตรมาส 2 สู่ครึ่งปีหลัง เศรษฐกิจไทยจะค่อยฟื้นตัวเป็นลำดับ และจะค่อยๆ ดีขึ้นในปีต่อๆ ไป
  • สถาบัน Ifo ซึ่งเป็นสถาบันวิจัยเศรษฐกิจของเยอรมนี เผยดัชนีความเชื่อมั่นทางธุรกิจของเยอรมนีในเดือน มิ.ย.ลดลงแตะ 109.7 จาก 110.4 ในเดือน พ.ค.ซึ่งต่ำกว่าคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ส่วนใหญ่ที่ 110.2 ขณะที่ดัชนีความเชื่อมั่นต่อภาวะทางธุรกิจในปัจจุบันไม่เปลี่ยนแปลงจากเดือนก่อนหน้าที่ 114.8 แต่ต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์ประเมินไว้ที่ 115.0 ส่วนการคาดการณ์เกี่ยวกับแนวโน้มทางธุรกิจลดลงแตะ 104.8 จาก 106.2 ในเดือนที่แล้ว และต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ที่ 105.9
  • คณะรัฐมนตรีภายใต้การนำของนายกรัฐมนตรีชินโสะ อาเบะของญี่ปุ่น เตรียมอนุมัติยุทธศาสตร์การเติบโตทางเศรษฐกิจและร่างนโยบายระยะยาวที่ผ่านการปรับปรุงแก้ไขแล้วในวันนี้ ซึ่งครอบคลุมถึงข้อเสนอต่างๆที่ทางคณะรัฐมนตรีเชื่อว่าจะช่วยกระตุ้นภาคเอกชน และมีเป้าหมายที่จะหนุนราคาหุ้นของญี่ปุ่น โดยรัฐบาลญี่ปุ่นให้คำมั่นว่าจะปรับลดภาษีนิติบุคคลซึ่งปัจจุบันอยู่ที่ระดับ 35% ลงมาอยู่ที่ระดับต่ำกว่า 30% ภายใน 2-3 ปีข้างหน้า นับตั้งแต่ปีงบประมาณ 2558 ตามที่กลุ่มผู้นำภาคธุรกิจได้เรียกร้อง เนื่องจากภาษีนิติบุคคลที่อยู่ในระดับสูงนั้นได้ส่งผลกระทบต่อการลงทุนโดยตรงจากต่างประเทศ (FDI) ในญี่ปุ่น

แท็ก เงินบาท  

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ